นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ครีเดน เอเซีย หรือ Creden.co บริษัทสตาร์ทอัพไทย เผยว่า "ในช่วงปี 64 ที่ผ่านมา คนไทยหันมาใช้ระบบเซ็นเอกสารผ่านทางออนไลน์เพิ่มมากกว่า 200% ด้วยปัจจัยหลายอย่าง ได้แก่ กฏหมายด้านการเซ็นเอกสารออนไลน์ ถูกนำมาบังคับใช้แล้ว ทำให้หน่วยงานของรัฐและเอกชนหลายๆ แห่ง ต่างมั่นใจในการเซ็นเอกสารออนไลน์มากขึ้น ว่าเมื่อเซ็นแล้ว เอกสารจะสามารถนำไปใช้ในทางกฏกหมายได้เหมือนกับกระดาษปกติ"
โดยมีบริการ Creden eSign บริการเซ็นเอกสารออนไลน์ที่เปิดให้ใช้ได้ฟรี.! พร้อมระบบยืนยันตัวตน (eKYC) ที่พัฒนาตามมาตรฐานของ ETDA หรือ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) กำหนดไว้
โดยตอนนี้มีหลายหน่วยงานภาครัฐใช้บริการอยู่ เช่น สถาบันอนุญาโตตุลาการ สำนักงานศาลยุติธรรมได้มีการใช้การเซ็นเอกสารออนไลน์ ภายในองค์กร รวมไปถึงนำไปใช้ในการลงนามความร่วมมือระหว่างองค์กร หลายๆ โครงการที่ผ่านมา หรือ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) , กรมพัฒนาที่ดิน ก็ได้เริ่มมีการนำระบบนี้ไปใช้แล้ว โดยเฉพาะในช่วง ต้องทำงานที่บ้านตอนโควิด-19
“โควิด-19 ทำให้คนไทยหันมาใช้การเซ็นเอกสารออนไลน์เพิ่มขึ้น 200% และในระบบการยืนยันตัวตน (eKYC - Know Your Customer) ของ Creden eKYC ก็เพิ่งมีการเชื่อมต่อกับระบบ NDID หรือ National Digital ID ทำให้ผู้ที่จะเซ็นเอกสาร สามารถยืนยันตัวตนได้หลายวิธี ก่อนที่จะเซ็นเอกสารทางออนไลน์ รวมไปถึงระบบวิเคราะห์บิ๊กดาต้าฐานข้อมูลบริษัททั้งประเทศเทศไทย ที่ตอนนี้มีหลายธุรกิจไทยหันมาใช้ข้อมูล Creden Data ในการวิเคราะห์เติบโตเพิ่มมากขึ้น 150%
โดยล่าสุดทาง Creden.co ก็ได้รับการลงทุนจาก บริษัท อินโนสเปซ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นบนความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อเข้ามาช่วยสนับสนุนและผลักดันสตาร์ทอัพไทยให้เติบโต
นายต่อตระกูล วัฒนวรกิจกุล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อินโนสเปซ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า“Creden พร้อมขยายตลาดไปทั่วประเทศ และเตรียมพร้อมบุกตลาดอาเซียน”
"การลงทุนใน Creden.co ครั้งนี้เพราะเป็นบริษัทที่พัฒนาเทคโนโลยีสำคัญอย่างระบบเซ็นเอกสารออนไลน์ ที่จะกระะตุ้นให้ประเทศไทย เข้าสู่สังคมไร้กระดาษอย่างรวดเร็วมากขึ้น ทั้งในภาครัฐและเอกชน อีกทั้งยังมีระบบวิเคราะห์ฐานข้อมูลธุรกิจประเทศไทย พร้อม AI เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาพัฒนาอุตสาหกรรมต่างๆ ให้เดินหน้าไปในทิศทางเดียวกัน โดยการลงทุนรอบนี้จะเป็นการลงทุนในรอบ พรีซีรีส์-เอ เพื่อขยายธุรกิจไปทั่วประเทศ และเตรียมความพร้อมออกสู่ตลาดอาเซียน"