นายชูเกียรติ รุจนพรพจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ครึ่งปีที่ผ่านมาการดำเนินการเป็นไปตามเป้าหมาย โดยมุ่งสร้างอีโคซิสเต็ม SABUY ที่รวบรวมทุกบริการ ทุกความต้องการของผู้ใช้งานภายใต้กลยุทธ์ “SABUY VERSE First Move” ที่มี 5 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจเติมเงินและรับชำระเงิน, ธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์, ธุรกิจระบบโซลูชันและแพลตฟอร์ม, ธุรกิจการให้บริการทาง การเงิน และธุรกิจเศรษฐกิจใหม่ (New Economy) โดยขณะนี้มีบริษัทในกลุ่ม SABUY อยู่ 51 บริษัท
โดยก่อนหน้านี้ได้ไปลงทุนบริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (AIT), นครหลวงแคปปิตอล, CarFinn, O Capital, LockBox, มาร์เก็ตติ้งอุปส์ และไอซอฟเทล (iSoftel), และเป็นพันธมิตรกับบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทั้ง Com7 ทีเคเอส และซินเน็ค เพื่อขยายอีโคซิสเต็ม SABUY เพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างครบถ้วนรวดเร็ว
ภายในปีนี้ SABUY จะเข้าร่วมลงทุนกับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 4 ราย โดยเป็นกลุ่มธุรกิจขายตรง เพื่อที่จะเพิ่มช่องทางขายให้มากขึ้นใน หลายเซ็กเมนต์ ซึ่งบริษัทจดทะเบียนที่คุยอยู่เห็นโอกาสในการเติบโตที่สูงมากจากการขายเครื่องใช้ไฟฟ้า แบบผ่อนชำระ และยังมีกลุ่มธุรกิจซื้อหนี้บริหารหนี้ (AMC) และจะมีการตั้งบริษัทร่วมทุนกับธนาคารด้วย นอกจากนี้ยังเจรจาในกลุ่มธุรกิจการค้า และร้านขายยาธุรกิจทางการแพทย์ด้วย
ขณะที่แผนการขยายจุดให้บริการ หรือ Touch Point ยังเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยปีนี้คาดว่าจะมีไม่ตํ่ากว่า 500,000 จุด ให้บริการครอบคลุมตั้งแต่ขายประกัน ฝากถอนเงิน จ่ายค่านํ้าค่าไฟ เปิดซิมมือถือ บริการยืนยันตัวตน KYC ตู้ขายสินค้า ตู้เติมนํ้ามัน ตู้นํ้าแข็ง จุดให้บริการขนส่งสินค้า จุดวางสินค้า (Drop Off) เข้าถึงผู้ใช้บริการ 50 ล้านคน
“SABUY วางกลยุทธ์การเติบ โตแบบก้าวกระโดดผ่านการทำธุรกิจแบบกินแบ่ง เพื่อคนตัวเล็ก และเป็นผู้ที่มีข้อจำกัดในการร่วมธุรกิจน้อย โดย SABUY จะทำเทคโนโลยีแบบใช้งานง่าย เพื่อโอกาสของคนตัวเล็ก โดยทำช่องทางในราคาที่สามารถเข้าถึงกลุ่มคนได้มากขึ้น ในต้นทุนตํ่า ใช้ เวลาน้อย และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าให้เยอะที่สุด นั่นคือโมเดลของเรา ซึ่งเชื่อว่าวันนี้ผู้ประกอบการรายย่อย 80-90% ไม่อยากทำธุรกิจที่มีถูกควบคุม กำลังวิ่งเข้ามาหาเรา
นายชูเกียรติ กล่าวต่อไปอีกว่าบริษัทฯ สามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง จากธุรกิจโซลูชั่นส์และช่องทาง การขายและบริการ ผ่าน Drop-off ต่างๆ และธุรกิจการขายสินค้าและผลิตภัณฑ์ ผ่านทาง PTECH ในขณะที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารโดยการคุมค่าใช้จ่ายได้ดีจากการควบรวมกลุ่ม Drop-off หลายแบรนด์เข้าด้วยกันเมื่อช่วงต้นปี
ในส่วนของธุรกิจเศรษฐกิจใหม่ ที่เพิ่มเข้ามา จะมีบริษัท สบาย ดิจิตอล จำกัด (SABUY Digital) ลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) ซึ่งรวมไปถึงสกุลเงินดิจิทัล และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีบล็อกเชน โดยอยู่ระหว่างดำเนินการขอใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานทางภาครัฐ และบริษัท สบาย แอคเซอเรอเรเตอร์ จำกัด (SABUY Accelerator) ลงทุนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรม เพื่อขยายการลงทุนของกลุ่มบริษัท เพิ่มศักยภาพสินค้าและบริการในอีโคซิสเต็มของ SABUY นอกจากนี้ยังได้วางแผนขยายธุรกิจ ไปยังกลุ่มประเทศในภูมิภาคอาเซียน โดยเบื้องต้นธุรกิจที่ขยายไป คือ บริการเพย์เม้นท์ และเกม
สำหรับปีนี้คาดว่ารายได้ราว 5-5.5 พันล้านบาท จากปีที่ผ่านมา มีรายได้ 2.3 พันล้านบาท และคาด ว่าด้วยอีโคซิสเต็ม สร้างไว้ในปีนี้ จะสร้างให้ปี 2566 รายได้ของบริษัทจะมีการเติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยคาดว่ารายได้จะเติบโตเป็น 2 หมื่นล้านบาท”