อธิการบดี สจล.คนใหม่ มุ่งขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ สู่ “ผู้นำนวัตกรรมระดับโลก”

25 ก.ค. 2565 | 05:47 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ก.ค. 2565 | 13:09 น.

“รศ. ดร.คมสัน มาลีสี” รับตำแหน่งอธิการบดี สจล. มุ่งการบริหารแบบ “รอบด้าน ทุกมุมมอง” เพื่อสานต่อวิสัยทัศน์ สู่ “ผู้นำนวัตกรรมระดับโลก”

สภาสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มีมติเห็นชอบให้ “รศ. ดร.คมสัน มาลีสี” เป็นผู้สมควรดำรงตำแหน่ง “อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง” โดยที่ผ่านมา รศ. ดร.คมสัน มาลีสี รักษาการแทนอธิการบดี มีประสบการณ์การบริหารงานภายใน สจล. มากว่า 12 ปี ที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในหลายมิติ ทั้งด้านการบริหารในฐานะ “คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์”

อธิการบดี สจล.คนใหม่ มุ่งขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ สู่ “ผู้นำนวัตกรรมระดับโลก”

 สู่การผลักดัน Education Reform ส่งเสริมการปฏิรูปหลักสูตรการเรียนการสอนที่ทันสมัย “กรรมการอำนวยการ โรงเรียนสาธิตนานาชาติสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (KMIDS)” โรงเรียนสาธิตนานาชาติสายวิทย์แห่งแรกของไทย “อธิการบดีสถาบันโคเซ็นแห่ง สจล.” (KOSEN-KMITL) สถาบันชำนาญพิเศษเฉพาะด้านวิศวกรรมศาสตร์ที่มุ่งผลิตวิศวกรชั้นแนวหน้าของโลก ภายใต้ความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและญี่ปุ่น

นอกจากนี้ ยังได้สร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้านงานวิชาการ ผ่านการผลักดันให้เกิดหลักสูตรนานาชาติถึง 12 หลักสูตร อาทิ วิศวกรรมหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ และวิศวกรรมการเงิน โดยร่วมกับมหาวิทยาลัยต่างๆ พร้อมทั้งส่งเสริมการนำผลงานของนักศึกษามาสร้างเป็นนิทรรศการเพื่อกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้อย่างไม่หยุดนิ่ง ตลอดจนด้านการบริการสังคม ด้วยการบุกเบิกโครงการ FACTory Classroom โรงงานต้นแบบแห่งการเรียนรู้ภายใต้ความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรม สู่การเพิ่มมูลค่าแก่ผลผลิตทางการเกษตรด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ด้วยเป้าหมายที่ต้องการยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชน พร้อมทั้งสร้างรายได้และสร้างความเข้มแข็งให้วิสาหกิจชุมชนเติบโตได้อย่างยั่งยืน

 

ทั้งนี้ การขับเคลื่อนสถาบันฯ ภายใต้การบริหารของ “รศ. ดร.คมสัน มาลีสี” มีหมุดหมายในการบริหารแบบ “รอบด้าน ทุกมุมมอง” เพื่อสานต่อวิสัยทัศน์ The World Master of Innovation หรือผู้นำนวัตกรรมระดับโลก เพื่อเดินหน้าสู่การเป็น “สถาบันเทคโนโลยีชั้นนำแห่งเอเชีย” กลไกสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันนวัตกรรมโลก และเพื่อพัฒนา สจล. ให้รวดเร็วที่สุด

จึงผลักดันให้เกิดนโยบาย Quick Win ทำทันที ถึง 22 ข้อหลักๆ อาทิ การพัฒนาพื้นที่ออกกำลังกาย และเพิ่มเติมหอพักใหม่ พร้อมทั้งผลักดันแอปพลิเคชัน KMITL UApp เพื่อให้บริการนักศึกษา และเกิดการเชื่อมโยงกันแบบเรียลไทม์ เดินหน้าผลักดันการทำโปรเจ็กต์ตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 ต่อยอดไปสู่การสนับสนุนนักศึกษาในการสร้างสตาร์ทอัพ และผสานองค์ความรู้ระหว่างวิทยาเขต โดยมีนโยบายหลักในการพัฒนา สจล. อย่าง Global Innovation Index ที่ครอบคลุมพัฒนาทั้งด้านระบบการทำงาน คุณภาพชีวิต ต่อยอดเครือข่าย ส่งเสริมนวัตกรรม และผลักดันด้านการเรียนรู้ ใน 5 มิติดังนี้

•             Global Infrastructure – เพิ่มคุณภาพชีวิตบุคลากรและนักศึกษา มุ่งสู่การเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียว (Green University) ผ่านการพัฒนาทุกพื้นที่ทั่วทั้งสถาบันให้เป็นพื้นที่พักผ่อน เพิ่มพื้นที่ทำกิจกรรมนักศึกษา พื้นที่ออกกำลังกาย และพื้นที่แห่งการเรียนรู้ (Learning Space) เชื่อมโยงเส้นทางรถไฟฟ้าบริเวณโดยรอบสถาบันและพื้นที่ภายนอก ติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าตลอดจนปรับสภาพแหล่งน้ำให้สะอาดและใช้ประโยชน์จากน้ำเหลือทิ้งให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้ยังเพิ่มเติมหอพักนักศึกษาใหม่ รองรับนักศึกษาได้ถึง 2,000 คน และเพิ่มการให้บริการด้านสุขภาพจากโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารแก่บุคลากรในสถาบัน และประชาชนโดยรอบ

•             Global Management – ผลักดันบุคลากรสู่โลกดิจิทัล ด้วยการพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้เท่าทันโลกการทำงานยุคดิจิทัล ผ่านระบบประเมินบุคลากรใน 3 รูปแบบ ทั้งแบบประเมินตนเอง หัวหน้าส่วนงานเพื่อพิจารณาขึ้นชั้นเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง และการทำงานร่วมกัน (Team Work) สู่การเป็น มหาวิทยาลัยดิจิทัล หรือ Digital University เต็มรูปแบบ ที่ทุกสิ่งสามารถเชื่อมโยงกันได้แบบเรียลไทม์ พัฒนางานบริการสำหรับนักศึกษาผ่านแอปพลิเคชัน KMITL UApp และผลักดันการปฏิรูปสำนักบริการคอมพิวเตอร์ให้เป็น KMITL Digital Data Center

•             Global Citizen – ปั้นบัณฑิตให้พร้อมทำงานทั่วโลก ด้วยการบ่มเพาะบัณฑิตให้เป็นส่วนหนึ่งของประชากรโลกที่พร้อมทำงานร่วมกับองค์กรทั่วโลก พร้อมเดินหน้าพัฒนางานวิจัยชั้นแนวหน้า (Frontier Research) ผ่านการจับมือองค์กรภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมเข้ามามีส่วนร่วม ส่งเสริมให้นักศึกษาพัฒนาโปรเจ็กต์ตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 พร้อมทั้งกระตุ้นการใช้ภาษาอังกฤษ พัฒนาแพลตฟอร์ม Skill Mapping ระบบวิเคราะห์ดีมานด์ตลาดแรงงาน เชื่อมโยงข้อมูลภาครัฐ-เอกชน รวมทั้งดึงภาคอุตสาหกรรมเข้ามามีส่วนร่วมพัฒนางานวิจัยผ่านหลักสูตรปริญญาโทและปริญญาเอก ภายใต้โมเดล Industrial Link Gate เพื่อก้าวเข้าสู่การศึกษาตลอดชีวิตอย่างแท้จริง

•             Global Innovation – รุดพัฒนานวัตกรรมระดับโลกเพื่อลดการนำเข้า ด้วยการเดินหน้าพัฒนาโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร เพื่อผลักดันให้เป็นโรงพยาบาลวิจัยนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ดีที่สุดของไทยจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ลดการนำเข้านวัตกรรมทางการแพทย์ราคาสูงจากต่างประเทศ ตลอดจนเป็นพื้นที่วิจัยและพัฒนา (R&D) สำหรับหน่วยงานภายนอก รวมทั้งเดินหน้าสร้าง Startup University Sandbox ส่งเสริมการพัฒนาสตาร์ทอัพ ผ่านแพลตฟอร์ม Research & Innovation Management (KRIS-One) เพื่อสร้างช่องทางสนับสนุนนักศึกษาในการสร้างสตาร์ทอัพ และผลักดันให้เกิดนวัตกรรมกว่า 1,000 ชิ้นต่อปี ผ่าน KMITL Expo พร้อมทั้งพัฒนาศูนย์กลางเครื่องมือครบวงจร (Advanced Instruments Center) เพื่อเป็นศูนย์รวมอุปกรณ์ที่ใช้ในการเรียนการสอน และการวิจัย

•             Global Learning – ขมวดรวมทุกวิทยาเขตเป็นหนึ่งเดียว ผสานองค์ความรู้ระหว่างสองวิทยาเขต ได้แก่ สจล. และ สจล. วิทยาเขตชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ จังหวัดชุมพร เป็นหนึ่งเดียว ส่งเสริมแหล่งเรียนรู้ด้านพลังงาน ด้านทรัพยากรทางทะเล และการเกษตรอัจฉริยะ (Smart Farming) และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่านการเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังตั้งเป้าในการพัฒนาศูนย์ดาราศาสตร์ ในพื้นที่อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อต่อยอดองค์ความรู้ด้านดาราศาสตร์ต่อไป

 

“อย่างไรก็ดี รศ. ดร.คมสัน มาลีสี ยังมุ่งขับเคลื่อนสถาบันฯ ผ่านค่านิยม FIGHT ที่ไม่ได้มีความหมายแค่แปลว่า “สู้” แต่ยังซ่อนความหมายแฝงอันเป็นเอกลักษณ์ของ สจล. ไว้ F : “Futurist”

มีวิสัยทัศน์กว้างไกล และกล้าแตกต่าง I : “Ignite” พัฒนาอย่างต่อเนื่อง และพร้อมนำการเปลี่ยนแปลง

G : “Greatness” มุ่งเน้นความเป็นเลิศ และสหวิชาชีพ H : “Honor” ยึดหลักธรรมาภิบาล และสร้างความยั่งยืน T : “Team Spirit” ทำงานเป็นทีม และผสานประโยชน์จากความหลากหลาย โดยมุ่งหวังให้ประชาคม สจล. FIGHT Together สู้ไปด้วยกัน”