หัวเว่ย มอง“ดิจิทัล อินเทลิเจนซ์”ทำโลก-เทคโนโลยีเปลี่ยนเร็ว

07 มี.ค. 2566 | 09:26 น.
อัปเดตล่าสุด :07 มี.ค. 2566 | 09:30 น.

หัวเว่ย ชี้ “ดิจิทัล อินเทลิเจนซ์” ทำให้โลก-เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว คาด 7-8 ปีข้างหน้า ทุกอย่างจะมีโลกคู่ขนานดิจิทัล ระบุ”ดีไวซ์-5G-คลาวด์-AI” มีบทบาทสำคัญ ท้ายสุดเทคโนโลยีเหล่านี้ต้องช่วยสร้างให้เกิดความยั่งยืน

ดร.ชวพล จริยาวิโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด   กล่าวในงานเวทีสัมมนาอนาคตประเทศไทย นวัตกรรมขับเคลื่อนประเทศ   หัวข้อ “เทคโนโลยีใหม่ เปลี่ยนไทย-เปลี่ยนโลก” จัดโดยเครือเนชั่น นำโดย สปริงนิวส์ กรุงเทพธุรกิจ ฐานเศรษฐกิจ  และโพสต์ทูเดย์ ว่าวันนี้เราอยู่ในโลกของดิจิทัลอินเทลิเจนซ์ (Digital Intelligence) ทั้งในแง่ของธุรกิจและการใช้ชีวิต นั่นแสดงว่าโลกของเรามีการดิสรัปชันขึ้นอย่างรวดเร็ว แบบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และดิจิทัลอินเทลิเจนซ์ทำให้เรื่องของเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา 

หัวเว่ย มอง“ดิจิทัล อินเทลิเจนซ์”ทำโลก-เทคโนโลยีเปลี่ยนเร็ว

อีกประมาณ 7-8 ปีข้างหน้า จะมีโลกคู่ขนานดิจิทัล ทวิน เกิดขึ้นในทุกอย่าง   ไม่ใช่แค่ในเรื่องของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว แต่การสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้า  เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของผู้บริโภค  ขณะที่ภาคธุรกิจต้องการสร้างประสบการณ์ใหม่ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้า    

 

เทคโนโลยีที่มีบทบาทสำคัญ  เริ่มต้นจากอุปกรณ์  หรือดีไวซ์  ซึ่งต่อไปอุปกรณ์สามารถสื่อสารข้อมูลกันได้   ซึ่งจะทำให้เกิดข้อมูลจำนวนมาก   ระบบเชื่อมต่อ หรือ Connectivity  ซึ่งเทคโนโลยี 5G  จึงมีความสำคัญ ทั้งความเร็วสูงกว่า 4G  ประมาณ 100 เท่า  สามารถส่งข้อมูลได้สูงสุด 1 กิ๊กะบิต   และมีความหน่วงต่ำ   สามารถปลดล็อกการใช้แอปพลิเคชันที่ในอดีตไม่สามารถทำได้  นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีคลาวด์ที่ใช้จัดเก็บข้อมูล   และ  AI มาช่วยให้การทำงานเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น  รวมไปถึงบล็อกเชน  อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีดังกล่าวจะต้องตั้งอยู่บนเรื่องของความยั่งยืน