กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดแถลงข่าว ผลการดำเนินงานการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์และภาพรวมของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (Anti Online Scam Operation Center: AOC) ตลอดช่วงระยะเวลา 1 ปี (1 พ.ย.66- 14 พ.ย.67) โดยมี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กระทรวงดีอีฯ เป็นประธานการแถลงวันที่ 14 พ.ย.67
การแถลงมีการเปิดเผยสถิติการแจ้งเหตุและผลการดำเนินงานของศูนย์ AOC ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2566 - ตุลาคม 2567 หรือ 1 ปีที่ผ่านมาของ ศูนย์ AOC พบว่า มีจำนวนการโทรเข้าสายด่วน 1441 ทั้งหมด 1,176,512 สาย และจำนวนการระงับบัญชีที่ต้องสงสัยอยู่ที่ 348,006 เคส โดยมีมูลค่าความเสียหายรวมประมาณ 19,000 ล้านบาท
กลุ่มอายุต่ำกว่า 20 ปี คิดเป็น 9,800 เคส มูลค่าความเสียหาย 193 ล้านบาท โดยผู้หญิงมีสัดส่วน 61.44 % ส่วนใหญ่ตกเป็นเหยื่อของการหลอกขายสินค้า/บริการที่ไม่เป็นขบวนการ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์
กลุ่มอายุ 20-49 ปี มีจำนวนสูงสุด 145,302 เคส มูลค่าความเสียหาย 8,223 ล้านบาท โดยผู้หญิงเป็นเหยื่อประมาณ 64.05% ซึ่งในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ตกเป็นเหยื่อของการหลอกโอนเงินเพื่อการหารายได้พิเศษ และการหลอกลงทุนออนไลน์
กลุ่มอายุ 50-64 ปี และ อายุ 65 ปีขึ้นไป คิดรวมเป็น 41,901 เคส มูลค่าความเสียหายรวม 7,769 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่ตกเป็นเหยื่อของการหลอกลงทุนออนไลน์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากลุ่มผู้สูงอายุยังคงมีความเสี่ยงสูงในการถูกหลอกในลักษณะนี้
คือกลุ่ม 20-49 ปี ซึ่งมีจำนวนเคสสูงถึง 145,302 เคส รองลงมาคือกลุ่ม 50-64 ปี โดยพบว่าคดีที่พบบ่อยที่สุดในกลุ่มนี้คือ คดีหลอกโอนเงินเพื่อหารายได้พิเศษ และคดีหลอกลงทุนออนไลน์
ซึ่งบ่งบอกถึงความสนใจและความเชื่อมั่นในโอกาสในการหารายได้ผ่านช่องทางออนไลน์ของกลุ่มในวัยนี้ และทำให้กลายเป็นกลุ่มเป้าหมายของมิจฉาชีพ
นายประเสริฐ เปิดเผยว่า กระทรวงดีอี มุ่งมั่นที่ดำเนินมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมและมีผลลัพธ์ที่ชัดเจน เพื่อลดจำนวนและผลกระทบจากขบวนการมิจฉาชีพ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างสังคมที่ปลอดภัยจากการภัยคุกคามทางออนไลน์ และการหลอกลวงในทุกรูปแบบที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน