นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า กระทรวงดีอี ได้เร่งรัดการดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล นางสาว แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผ่านมาตรการต่างๆ ซึ่งกำหนดโดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่ประกอบด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมบูรณาการการทำงาน เพื่อเป็นแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ ป้องกันและปราบปรามขบวนการมิจฉาชีพ บรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชน
ทั้งนี้ กระทรวงดีอี ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (AOC 1441) เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 พร้อมกับการบูรณาการข้อมูลร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้สามารถแจ้งระงับบัญชีม้าของมิจฉาชีพได้ภายในไม่เกิน 15 นาที รวมทั้งการเร่งรัดปิดกั้นโซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ URLs ผิดกฎหมาย และการดำเนินมาตรการต่างๆ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี อาทิ
จากข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พบว่ามูลค่าความเสียหายตั้งแต่เดือน ตุลาคม 2567 - กุมภาพันธ์ 2568 (ระยะเวลา 5 เดือน ของปีงบประมาณ 2568) อยู่ที่ 11,348 ล้านบาท มีความเสียหายลดลง จำนวน 3,335 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับความเสียหายจำนวน 14,683 ล้านบาท ในช่วงเวลาเดียวกันของปีงบประมาณ 2567 (ตุลาคม 2566 - กุมภาพันธ์ 2567)
นอกจากนี้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 มีมูลค่าความเสียหาย อยู่ที่ 65 ล้านบาทต่อวัน ลดลงร้อยละ 45 เมื่อเทียบกับ ค่าเฉลี่ยความเสียหายในช่วงต้นปีตั้งแต่เดือนมกราคม - มิถุนายน 2567 ที่มีความเสียหายเฉลี่ย 117 ล้านบาทต่อวัน
“จากการบูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเฝ้าระวัง ตรวจสอบติดตามการก่ออาชญากรรมออนไลน์ตามมาตรการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง พร้อมกับปฏิบัติการตัดไฟฟ้า สัญญาณอินเตอร์เน็ต และการส่งออกน้ำมัน ในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ทำให้มูลค่าความเสียหายลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ขณะเดียวกันเมื่อ ร่าง พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา และคาดว่ามีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาในเดือน เมษายน 2568 นี้ เมื่อมีผลบังคับใช้แล้ว คาดว่ามูลค่าความเสียหายอาชญากรรมออนไลน์จะลดลงมากยิ่งขึ้น พร้อมกับการลดปัญหาและผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป” รองนายกฯ ประเสริฐ กล่าว