‘โดรนติดกล้อง’โตแรง200% สารพัดแบรนด์รุมกินมาร์เก็ตแชร์ 5 หมื่นเครื่อง ปี 60
อากาศยานไร้คนขับ " โดรน" มาแรง ตลาดขยับจากมืออาชีพลงสู้คอนซูเมอร์ "อาร์ทีบี" คาดปีนี้เติบโต 200% ปี 60 ยอดขายรวม 5 หมื่นเครื่อง เล็งนำรุ่นเล็ก ซีโร่" รุ่นเอ็กซ์พลอเลอร์ มินิ" บุกไทยปลายปี วางราคาไม่เกิน 15,000 บาท ขณะที่ "แฟนธอม" เปิดตัว "ดีเจไอ ออสโม โมบาย" เจาะกลุ่มคนนิยมเฟซบุ๊กไลฟ์ ด้านหนึ่งสาม สโตร์ขยับฐานสู่ออนไลน์ดันรายได้
ดร.บรรพต วัฒนสมบัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี จำกัด ตัวแทนจำหน่ายอากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรนภายใต้แบรนด์ "ซีโร่" (Xiro) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ว่าตลาดอากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรนในไทยมีแนวโน้มการเติบโตสูง โดยปลายปีนี้ตลาดจะเริ่มขยายจากกลุ่มผู้ใช้ระดับมืออาชีพ ไปยังกลุ่มผู้ใช้ทั่วไป หรือ คอนซูเมอร์ ซึ่งถือเป็นตลาดที่ใหญ่มาก ทั้งนี้จากแนวโน้มดังกล่าวคาดการณ์ว่าตลาดคอนซูเมอร์จะเป็นตัวผลักดันให้ตลาดโดรนในไทยปีนี้เติบโตขึ้น 200% และคาดว่าปี 2560 ตลาดรวมจะมียอดซื้อขายไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นเครื่อง
"อาร์ทีบีฯ ลงมาลุยตลาดโดรน เนื่องจากเล็งเห็นโอกาสและช่องว่างการเติบโตของตลาดใหม่นี้ ซึ่งปัจจุบันการแข่งขันในตลาดยังไม่สูงมาก เนื่องจากมีผู้ประกอบการหลักๆ นำผลิตภัณฑ์เข้ามาทำตลาดประมาณ 2-3แบรนด์เท่านั้นขณะเดียวกันผู้บริโภคเองก็หันมาให้ความสนใจมากขึ้นเพราะราคาของโดรนถูกลงและใช้งานได้ง่ายขึ้นมาก ผู้บริโภคทั่วไปสามารถจับต้องได้"
ล่าสุดบริษัทได้เตรียมนำโดรน แบรนด์ "ซีโร่" รุ่นเอ็กซ์พลอเลอร์ มินิ เข้ามาทำตลาดไทยประมาณเดือนตุลาคม หรือ พฤศจิกายน โดยซีโร่ เอ็กซ์พลอเลอร์ มินิ จะเป็นโดรนขนาดเล็กเท่ากับฝามือ ที่ไม่มีรีโมตควบคุม สามารถควบคุมได้จากสมาร์ทโฟน โดยสามารถควบคุมได้ในรัศมี 50-100 เมตร สามารถถ่ายภาพเคลื่อนไหวได้ระดับ Full HD และสามารถดาวน์โหลดวิดีโอ มาเก็บไว้ในสมาร์ทโฟน หรือ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก หรือ ถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ ได้ทันที เหมาะสำหรับกลุ่มคอนซูเมอร์ ที่ต้องการถ่ายภาพเซลฟี หรือ ถ่ายทอดสดกิจกรรมต่างๆ ของตัวเองในระยะเวลาสั้นๆ โดยคาดว่ามีราคาจำหน่ายไม่เกิน 15,000 บาท ซึ่งทำให้ผู้บริโภคทั่วไปเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น ขณะที่รุ่นมืออาชีพ ระดับราคาตั้งแต่ 20,000-50,000 บาท
ด้านนายชนินทร์ มโนชญากร ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท แฟนธอม (ประเทศไทย) จำกัด ผู้แทนจำหน่าย โดรนติดกล้อง กล้องพร้อมอุปกรณ์กันสั่น และอุปกรณ์เสริมสำหรับเพิ่มประสิทธิภาพกล้อง แบรนด์ ดีเจไอ (DJI) กล่าวว่าบริษัทได้เตรียมขยายฐานการทำตลาดกลุ่มผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ ดีเจไอ จากกลุ่มผู้ใช้โดรน และผู้ใช้กล้องทั่วไป มาสู่กลุ่มเป้าหมายที่กว้างมากขึ้น โดยล่าสุดมองไปยังกลุ่มผู้ใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟน ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยสถิติล่าสุดพบว่าจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาถึง 126% และคิดเป็นสัดส่วนกว่า 65% ของจำนวนโทรศัพท์มือถือทั้งหมด รวมถึงพฤติกรรมการใช้งานที่เน้นการไลฟ์สตรีมผ่านเฟซบุ๊กและสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ มากขึ้น
ล่าสุดได้เปิดตัว ดีเจไอ ออสโม โมบาย (DJI Osmo Mobile) อุปกรณ์เสริมที่เปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้เป็นกล้องถ่ายวิดีโอที่มีฟังก์ชันเทียบเท่ากับกล้องถ่ายวิดีโอระดับโปร เพื่อตอบสนองพฤติกรรมของผู้บริโภคที่นิยมใช้โทรศัพท์มือถือในการถ่ายวิดีโอ และถ่ายภาพ หรือกลุ่มบล็อกเกอร์ , วอล์กเกอร์, ยูทูบเบอร์หรือสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว คล่องตัว สามารถถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ แบบสดๆ ผ่านไลฟ์สตรีมมิ่งได้ในทันที และได้ภาพที่ลื่นไหลด้วยมุมกล้องระดับโปรที่นิ่ง สวยงาม ราวกับใช้กล้องถ่ายทำแบบมืออาชีพ โดยดีเจไอ ออสโม โมบาย พร้อมวางตลาดเดือนกันยายน มีราคาอยู่ที่ 12,700. บาท ซึ่งการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในครั้งนี้ คาดว่าจะทำให้ดีเจไอ เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น และคาดว่าจะทำให้ยอดขายของดีเจไอในไทยเพิ่มขึ้น 15 - 20% ในปี 2559"
สอดรับกับนายณัฐชนน ชีวะวัฒนากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท หนึ่งสาม สโตร์ จำกัด ผู้นำเข้าสินค้าแบรนด์ "ดีเจไอ" (DJI) เปิดเผยว่าผลประกอบการครึ่งปีที่ผ่านมา ว่าบริษัทสามารถทำยอดขายได้ 30 ล้านบาท แบ่งเป็นสินค้าในกลุ่ม โดรน จำนวน 60% และกลุ่มระบบป้องกันความสั่นไหวของกล้อง (Stabilizer Camera) อีก 40% เหตุผลที่จำหน่ายสินค้า โดรน เนื่องจากสามารถประยุกต์ใช้งานได้หลายอย่างทั้งการศึกษา งานวิจัย อุตสาหกรรมก่อสร้าง และ อุตสาหกรรมการเกษตร เป็นต้น
"ในปีแรกที่เปิดตัวนี้ เราคาดหวังเป็นผู้นำตลาดโดรน และ ระบบการสั่นไหวของกล้อง Stabilizer Camera ในประเทศไทย จึงเตรียมการรองรับการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านออนไลน์และผ่านร้านตัวแทนให้มากขึ้น ซึ่งมั่นใจว่า ดีเจไอ จะเป็นสินค้าได้รับการตอบรับจากตลาด"
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,192 วันที่ 15 - 17 กันยายน พ.ศ. 2559