iPhone 15 Pro-iPhone 15 Pro Max แกร่ง เบา วัสดุไททาเนียม

12 ก.ย. 2566 | 19:05 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ก.ย. 2566 | 06:49 น.

Apple เปิดตัว iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max มาพร้อมดีไซน์จากไทเทเนียมที่ทั้งแข็งแกร่งและเบา มีขอบมนแบบใหม่ ปุ่มแอ็คชั่นใหม่ การอัปเกรดกล้องที่ทรงพลัง และชิป A17 Pro ที่ให้ประสิทธิภาพและรองรับการเล่นเกมแบบพกพา

Apple เปิดตัว iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max ที่ได้รับการออกแบบมาด้วยไทเทเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศที่ทั้งแข็งแกร่งและเบา จนได้เป็นรุ่น Pro ของ Apple ที่เบาที่สุดเท่าที่เคยมีมา    ดีไซน์ใหม่ดังกล่าวยังมาพร้อมขอบมนและปุ่มแอ็คชันที่ปรับแต่งได้ ผู้ใช้จึงปรับแต่งประสบการณ์ iPhone ได้ตรงความต้องการ

iPhone 15 Pro-iPhone 15 Pro Max  แกร่ง เบา วัสดุไททาเนียม

การอัปเกรดกล้องที่ทรงพลังมอบคุณสมบัติเทียบเท่าเลนส์ระดับโปร 7 ตัว ที่ให้คุณภาพของภาพอันน่าทึ่ง รวมทั้งระบบกล้องหลัก 48MP รองรับค่าเริ่มต้นความละเอียดสูงเป็นพิเศษแบบใหม่ที่ 24MP และยังรองรับการถ่ายภาพบุคคลเจเนอเรชั่นถัดไปที่มีคุณสมบัติการควบคุมโฟกัสและระยะชัดลึก มีการปรับปรุงโหมดกลางคืนและ HDR อัจฉริยะ และยังมีกล้องเทเลโฟโต้ 5 เท่าแบบใหม่หมด พิเศษเฉพาะใน iPhone 15 Pro Max

นอกจากนี้ชิป A17 Pro ยังปลดล็อคประสบการณ์การเล่นเกมและประสิทธิภาพระดับโปรให้เหนือไปอีกขั้น เช่นเดียวกับขั้วต่อ USB C ใหม่ที่เร็วสุดแรงด้วยความเร็วของ USB 3 ที่เร็วกว่า USB 2 สูงสุด 20 เท่า และมาพร้อมกับไฟล์วิดีโอรูปแบบใหม่ที่มอบเวิร์กโฟลว์ระดับโปรอย่างมีประสิทธิภาพในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน 

อีกทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์ iPhone 15 Pro ยังมีคุณสมบัติเพิ่มเติมอย่างบริการช่วยเหลือบนท้องถนนผ่านดาวเทียมที่พัฒนาขึ้นบนโครงข่ายดาวเทียมอันทันสมัยของ Apple เพื่อให้ผู้ใช้สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ในกรณีที่รถมีปัญหาเมื่ออยู่ในพื้นที่อับสัญญาณ

iPhone 15 Pro-iPhone 15 Pro Max  แกร่ง เบา วัสดุไททาเนียม

iPhone 15 Pro - iPhone 15 Pro Max พร้อมวางจำหน่ายใน 4 สีสันใหม่โดนใจ ได้แก่ สีไทเทเนียมดำ สีไทเทเนียมขาว สีไทเทเนียมน้ำเงิน และสีไทเทเนียมธรรมชาติ โดยลูกค้าสามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 15 กันยายน และจะวางจำหน่ายในวันศุกร์ที่ 22 กันยายน

นายเกร็ก จอสเวียค (Greg Joswiak) รองประธานอาวุโสฝ่าย Worldwide Marketing ของ Apple กล่าวว่า นี่เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่โปรที่สุดเท่าที่เราเคยสร้างขึ้นมา มีดีไซน์ที่ทำจากไทเทเนียมอันล้ำสมัย มาพร้อมระบบกล้อง iPhone ที่ดีที่สุดที่พลิกวงการด้วยเวิร์กโฟลว์ใหม่ และยังมีชิป A17 Pro ที่ปูทางสู่มิติใหม่แห่งประสิทธิภาพการทำงานและการเล่นเกมในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนบน iPhone"

 "iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max แสดงถึงดีไซน์อันเป็นที่สุดของ Apple และนวัตกรรมครั้งแรกในอุตสาหกรรมก่อนใครที่ช่วยเติมเต็มประสบการณ์ในแต่ละวันของผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยให้ปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มที่”

ดีไซน์ที่ทั้งเบา ทนทาน และสวยสะดุดตา

iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max มาพร้อมดีไซน์จากไทเทเนียมที่ทั้งแข็งแกร่งและเบา นับเป็นครั้งแรกของ iPhone โดยมีขนาดจอภาพให้เลือกที่ 6.1 นิ้ว และ 6.7 นิ้ว ตามลำดับ   อัลลอยเกรดพรีเมียมแบบเดียวกับที่ใช้ในยานอวกาศมีอัตราส่วนความแข็งแรงต่อน้ำหนักที่สูงสุดยิ่งกว่าโลหะใดๆ จนได้เป็นผลิตภัณฑ์ตระกูล Pro ของ Apple ที่เบาที่สุดเท่าที่เคยมีมา

โดยทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมผิวที่ผ่านการปัดจนสวยเงางามแบบใหม่ มีขอบมน และขอบจอที่บางที่สุดใน iPhone ผลิตภัณฑ์ตระกูล Pro สร้างมาให้ใช้งานได้ยาวนาน โดยได้ผสานความแข็งแกร่งของไทเทเนียม กระจกด้านหลังที่แข็งแกร่งที่สุดในสมาร์ทโฟน และตัวเครื่องด้านหน้าแบบ Ceramic Shield ชั้นแนวหน้าของอุตสาหกรรม แถบไทเทเนียมที่หุ้มโครงสร้างส่วนล่างแบบใหม่ทำจากอลูมิเนียมรีไซเคิล 100%

มาพร้อม iOS 17

iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max มาพร้อม iOS 17 ซึ่งทำให้ iPhone เป็นตัวคุณและใช้งานง่ายยิ่งขึ้น โดยคุณสมบัติใหม่ๆ มีดังนี้

•            แอปโทรศัพท์ได้รับการอัปเดตครั้งใหญ่ ทั้งคุณสมบัติโปสเตอร์ของรายชื่อที่ช่วยให้ผู้ใช้ปรับแต่งลักษณะของตัวเองที่ปรากฏแก่คนอื่นๆ ตามรายชื่อบนเครื่อง และคุณสมบัติวอยซ์เมลแบบสดที่อาศัยขุมพลังของชิป A17 Pro เพื่อให้ผู้ใช้เห็นข้อความจากการถอดเสียงบนอุปกรณ์แบบเรียลไทม์ในขณะที่มีคนกำลังฝากข้อความวอยซ์เมล โดยผู้ใช้ยังเลือกที่จะรับสายระหว่างที่ผู้โทรกำลังฝากข้อความได้ด้วย

•            แอปข้อความมีสติกเกอร์แบบใหม่ รองรับการค้นหาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถถอดเสียงจากข้อความเสียงโดยอัตโนมัติ และยังมีคุณสมบัติเช็คอินที่ผู้ใช้สามารถแจ้งเพื่อนและครอบครัวโดยอัตโนมัติเมื่อเดินทางไปถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย

•            NameDrop มอบวิธีใช้ AirDrop แบบใหม่เพื่อให้แชร์ข้อมูลรายชื่อได้ง่ายขึ้นเพียงแค่นำ iPhone ทั้ง 2 เครื่องมาอยู่ด้วยกัน วิธีดังกล่าวยังใช้ในการแชร์คอนเทนต์และอีกมากมายผ่าน AirDrop ได้ด้วย โดยผู้ใช้แต่ละคนแยกย้ายกันได้ทันทีเพราะสามารถส่งไฟล์ขนาดใหญ่ได้จนเสร็จผ่านอินเทอร์เน็ต8

•            โหมดพร้อมรอใช้งานช่วยให้ผู้ใช้เห็นข้อมูลที่เหลือบมองดูได้แบบเต็มหน้าจอในแบบที่ปรับแต่งได้เอง ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้เห็นได้จากระยะไกลเมื่อวาง iPhone ตะแคงเพื่อชาร์จ และด้วยคุณสมบัติจอภาพแบบติดตลอดของ iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max ก็จะทำให้โหมดพร้อมรอใช้งานสามารถแสดงข้อมูลที่มีประโยชน์ค้างไว้ได้ตลอด เหมาะทั้งสำหรับการใช้งานบนโต๊ะทำงาน โต๊ะข้างเตียง หรือเคาน์เตอร์ครัว

•            วิดเจ็ตแบบอินเทอร์แอ็คทีฟบนหน้าจอโฮม หน้าจอล็อค หรือในโหมดพร้อมรอใช้งาน ช่วยให้ผู้ใช้ลงมือทำนั่นทำนี่ได้ด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว จึงง่ายต่อการทำเครื่องหมายสิ่งที่ต้องทำให้เสร็จ หรือเล่น/หยุดเล่นเพลงจากวิดเจ็ตได้โดยตรง

•            Safari มอบการปกป้องที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นให้กับการท่องเว็บแบบส่วนตัว และรองรับการสร้างโปรไฟล์เพื่อให้ผู้ใช้แยกการท่องเว็บได้ตามหัวข้อการใช้งาน เช่น เรื่องงานและเรื่องส่วนตัว

iOS 17 มีอัปเดตอีกมากมาย รวมถึงแอปบันทึก แอปใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้ iPhone ได้ทบทวนและฝึกขอบคุณเรื่องดีๆ ด้วยการจดบันทึก มีการปรับปรุงคุณสมบัติการแก้ไขโดยอัตโนมัติและการป้อนตามคำบอกที่ทำให้การป้อนข้อความทั้งเร็วและง่ายยิ่งกว่าที่ผ่านมา รวมถึงคุณสมบัติการแชร์รหัสผ่านและพาสคีย์ด้วย iCloud Keychain และอีกมากมาย

ราคาและความพร้อมในการวางจำหน่าย

•            iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max พร้อมวางจำหน่ายในสีไทเทเนียมดำ สีไทเทเนียมขาว สีไทเทเนียมน้ำเงิน และสีไทเทเนียมธรรมชาติ โดย iPhone 15 Pro มีราคาเริ่มต้นที่ 41,900 บาท หรือ 4,190 บาท ต่อเดือน และมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลให้เลือกตั้งแต่ความจุ 128GB, 256GB, 512GB และ 1TB สำหรับ iPhone 15 Pro Max มีราคาเริ่มต้นที่ 48,900 บาท หรือ 4,890 บาท ต่อเดือน และมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลให้เลือกตั้งแต่ความจุ 256GB, 512GB และ 1TB

•            ลูกค้าในกว่า 40 ประเทศและภูมิภาค รวมถึง ออสเตรเลีย, แคนาดา, จีน, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อินเดีย, ญี่ปุ่น, เม็กซิโก, สหรัฐอาหรับเอมิเรตน์, สหราชอาณาจักร, สหรัฐอเมริกา และประเทศไทย จะสามารถสั่งซื้อ iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max ล่วงหน้าได้ตั้งแต่เวลา 19:00 น. ตามเวลาในประเทศไทยของวันศุกร์ที่ 15 กันยายน และจะวางจำหน่ายในวันศุกร์ที่ 22 กันยายน