รมว.ดีอี เปิด 5 ยุทธศาสตร์ขับเคลื่อน AI ลดหย่อนภาษี CIT 250%

22 มี.ค. 2567 | 07:47 น.
อัปเดตล่าสุด :22 มี.ค. 2567 | 09:10 น.

รมว.ดีอี เปิด 5 ยุทธศาสตร์ขับเคลื่อน AI ตั้งคณะทำงานเพื่อออกกฎหมายกำกับดูแลเรื่อง AI โดยเฉพาะ ยอมรับสถานการณ์บุคลากรทางด้าน AI ขาดแคลนมีเพียง 2 หมื่นคน จากความต้องการในตลาดมากกว่า 1 แสนคน

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี กล่าวในงานสัมมนา AI REVOLUTION 2024 : TRANSFORMING THAILAND ECONOMY จัดโดย หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ Al: Thailand Strategy ยุทธศาสตร์ AI ประเทศไทย ว่า  ขณะนี้ กระทรวงดีอี ได้วาง 5 ยุทธศาสตร์ วางแผนขับเคลื่อน AI ดังนี้

1.ส่งเสริมการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อพัฒนา AI โดยดึงบริษัทฯชั้นนำระดับโลกเข้ามาร่วมลงทุนเพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคอาเซีย เนื่องจากประเทศไทยมีโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีหลากหลายไม่ได้เป็นรองใคร

2. ส่งเสริมพัฒนา AI ในประเทศไทยด้วยการพัฒนาเป็นภาษาไทยต่อยอด ซึ่งเป็นจุดหนึ่งที่เป็นการต่อยอด AI

3.ส่งเสริมยกศักยภาพให้ผู้ให้บริการเทคโนโลยีกลุ่มสตาร์อัพประยุกต์ใช้ AI กว้างขวางให้ เอสเอ็มอี มีทักษะเรียนรู้ AI เพราะ AI  เป็นหนึ่งเป้าหมายพัฒนาคนให้มีจำนวนคนที่ต้องการปัจจุบันจำนวนบุคลากร AI ในประเทศมีจำนวน 21,631 คน แต่ความต้องการคนทำงานด้าน AI มีสูงถึง 106,487 คน ดังนั้น กระทรวงดีอีฯ จึงมีมาตรการ Global Digital Talent Visa ลดหย่อนภาษี CIT ถึง 250% หากเข้าคอร์สฝึกอบรมหลักสูตร AI

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดีอี ปาฐกถาพิเศษ A: Thailand Strategy ยุทธศาสตร์ AI ประเทศไทย

 

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดีอี ปาฐกถาพิเศษ A: Thailand Strategy ยุทธศาสตร์ AI ประเทศไทย

4.ส่งเสริมตระหนักรู้ทักษะ AI  ให้คนไทย ถึงเวลาแล้วคนไทยต้องมีความรู้เรื่อง AI นโยบายส่งเสริมการลงทุนและสิทธิประโยชน์ยกระดับบัญชีบริการดิจิทัลเพื่อยกระดับเศรษฐกิจไทย ผู้ประกอบการสามารถลงทุน 100% แบบไม่จำกัดวงเงินลงทุนจากเดิม 50%

5. AI  ในขณะนี้แม้มีคณะกรรมการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติเพื่อการพัฒนาประเทศ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และในขณะนี้กำลังเกิดคณะอนุกรรมการพัฒนาและส่งเสริมเศรษฐกิจปัญญาประดิษฐ์ (AI Economy Sub-committee)

"AI ไม่มีใครเลี่ยงได้ โดยตนได้เดินทางไปสัมมนาที่งานโมบาย เวิล์ด คองเกรส มีการพูดถึงเรื่องการประยุกต์ใช้ AI อย่างแพร่หลาย และ เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2567 มีรายงานว่า รัฐสภาสหภาพยุโรป EU ได้อนุมัติกฎหมายด้านการจัดการปัญญาประดิษฐ์หรือ AI เพื่อควบคุมปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีระดับแถวหน้าที่ได้รับการลงทุนอย่างมหาศาล"