นายณรงค์ บุญเสถียรวงศ์ รองอธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ แถลงวานนี้ (29 มี.ค.) ถึงความคืบหน้าการเตรียมจัด การเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ว่า จะมีการประชุมร่วม 4 ฝ่าย ประกอบด้วย กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กระทรวงมหาดไทย และบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด อีกครั้งในวันที่ 30 มี.ค.นี้ เพื่อหารือติดตามการเตรียมการต่างๆ เกี่ยวกับการใช้สิทธิ์ของ คนไทยในต่างแดน ใน การเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร
นอกจากนี้ ในส่วนของกระทรงการต่างประเทศยังจะดำเนินการจัดอบรมเจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลที่ประจำการสถานเอกอัครราชทูตไทยและสถานกงสุลใหญ่ไทยทั่วโลก โดยจะมีการอบรมดังกล่าวเป็นครั้งที่ 2 ในวันที่ 31 มี.ค.นี้ ขณะที่ฝ่ายคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะให้การสนับสนุนเครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆที่เกี่ยวข้องด้วย อาทิ คูหาเลือกตั้ง สายรัดหีบบัตรเลือกตั้ง แถบพลาสติก และอุปกรณ์อื่นๆ ซึ่งได้มีการดำเนินการจัดส่งไปยังสถานเอกอัครราชทูตไทยและสถานกงสุลใหญ่ไทยทั่วโลกแล้ว
นายณรงค์ กล่าวด้วยว่า กระทรวงการต่างประเทศขอเชิญชวนคนไทยในต่างประเทศไปลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งนอกราชอาณาจักร โดยสถิติล่าสุด ณ วันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา (จนถึงเวลา 18.00 น. ตามเวลาประเทศไทย) มีคนไทยมาลงทะเบียนแล้วรวม 24,005 คน
ประเทศที่มีผู้ลงทะเบียนสูงสุด คือ ออสเตรเลีย (16,192 คน)
ส่วน 10 อันดับประเทศที่มีจำนวนคนไทยลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งนอกราชอาณาจักรมากที่สุด ประกอบด้วย ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา จีน สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น เยอรมนี มาเลเซีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ และฝรั่งเศส เหล่านี้เป็นประเทศที่มีคนไทยพำนักอยู่เป็นจำนวนมากอยู่แล้ว
เมื่อเปรียบเทียบกับการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรครั้งล่าสุดที่ผ่านมาในปี 2562 มีผู้มาใช้สิทธิ์ 119,313 คน ทำให้เชื่อมั่นได้ว่าจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์ในครั้งนี้ จะไม่น้อยกว่าครั้งที่ผ่านมา หรืออาจมีจำนวนมากกว่าเดิม
สำหรับระยะเวลาการ “ลงทะเบียนใช้สิทธิ์เลือกตั้งนอกราชอาณาจักร” เริ่มแล้วตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม ไปจนถึงวันที่ 9 เมษายนนี้ ส่วนกำหนดวันเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรจะมีขึ้นในวันที่ 24 เมษายน ถึงวันที่ 5 พฤษภาคม
หลักฐานหรือเอกสารที่ต้องใช้ สำหรับการขอลงทะเบียนใช้สิทธิ์เลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ตามที่ระบุในเว็บไซต์ของกระทรวงมหาดไทยนั้น ประกอบด้วย
ส่วนรูปแบบการลงคะแนนนั้น สถานเอกอัครราชทูตไทยและสถานกงสุลใหญ่ไทยจะเป็นผู้กำหนดรูปแบบที่เหมาะสมตามสภาพแวดล้อมของประเทศนั้นๆ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่คนไทยในแต่ละพื้นที่ ซึ่งตามระเบียบของกกต.กำหนดให้จัดการลงคะแนนเลือกตั้งในช่วงวันที่ 24 เม.ย.- 5 พ.ค.นี้ โดยต้องจัดการเลือกตั้งล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 12 วันก่อนวันเลือกตั้งในประเทศ เนื่องจากต้องส่งบัตรเลือกตั้งกลับมาให้ทัน
นายณรงค์ ยังกล่าวต่อไปว่า ทางการมีระบบติดตามและตรวจสอบทุกขั้นตอนในการจัดส่งบัตรเลือกตั้ง เพื่อการันตีว่าบัตรเลือกตั้งจะมาถึง และเพื่อให้การดำเนินการถูกต้องตามช่วงเวลา ว่าช่วงเวลาไหนควรทำขั้นตอนไหน ขณะที่ บัตรเลือกตั้งจากต่างประเทศทั้งหมดจะถูกส่งมานับคะแนนที่กรุงเทพฯ