พรรคไทยสร้างไทย จัดประชุมใหญ่วิสามัญ มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคเพิ่มเติม และทดแทน ตามข้อบังคับพรรค เพื่อเตรียมสู้ศึกช่วงการเลือกตั้งนี้ โดยมีมติให้ ”ฐากร ตัณฑสิทธิ์” ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรค แทน น.ต.ศิธา ทิวารี ที่จะเป็นตัวแทนของพรรคในการลงพื้นที่หาเสียงช่วงเลือกตั้งในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
สำหรับ 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี “ไทยสร้างไทย” ดังนี้
1) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคไทยสร้างไทย ในปัจจุบันเป็นหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย
ปี 2535 ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นครั้งแรก จนเป็นที่มาของชื่อ “เจ้าแม่ กทม.” เพราะลงมือแก้ไข ปัญหาให้คน กทม. แบบชนิดกินพื้นที่กว้างขวาง รวมถึงได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนยาวนานกว่า 3 ทศวรรษ และได้รับการแต่งตั้งเป็นรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ก่อนดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรค ปี 2537 ซึ่งเป็นนักการเมืองผู้หญิงคนแรกของประเทศไทยที่ดำรงตำแหน่งนี้ และเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ผลงานสำคัญคือ การวางแผนปรับเปลี่ยนสถานีขนส่ง หมอชิต ให้เป็นสถานีรถไฟฟ้า
ปี 2538 ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีผลงานสำคัญ คือผลักดันให้เกิดโครงข่าย ระบบ ขนส่งมวลชนในเมืองสำคัญๆ ระดับภูมิภาค ทั้งใน กรุงเทพฯ และปริมณฑลรองรับการขยายตัว ของเมือง ในอนาคตอีกด้วย
ปี 2544 ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวาธารณสุข ผลงานสำคัญคือการเร่งดำเนินนโยบายการสร้างหลัก ประกันสุขภาพถ้วนหน้า โครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค สร้างสุขภาพทั่วไทย รณรงค์ให้ประชาชนคนไทยหันมาออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ลดโรค
ปี 2547 วางแผนป้องกันโรคไข้หวัดนก สร้างความมั่นใจให้กับประชาชน และวางระบบกับบุคลากรทางการแพทย์ และทีมกู้ภัย ทั้ง จากในพื้นที่และนอกพื้นที่ เพื่อให้สามารถรับมือและบริหารจัดการสถานการณ์สึนามิ
ปี 2548 ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ ผลงานสำคัญ คือเร่งปรับโครงสร้างการผลิตการเกษตร เปิดและขยายตลาดสินค้าเกษตร เจรจาเพื่อลดข้อกีดกัน ทางการค้า
ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้าชั้น 4 จตุตถจุลจอมเกล้า เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2548 ทำให้ได้รับคำนำ หน้าว่า “คุณหญิง” นับแต่นั้นเป็นต้นมา
ปี 2562 รับบทบาทนำในพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย และในฐานะ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จากพรรคเพื่อไทย ในการเลือกตั้ง ผลการเลือกตั้ง แม้พรรคเพื่อไทย จะได้ ส.ส. มากที่สุด แต่ไม่ได้เป็น รัฐบาล ด้วยกติกาอันพิสดารที่ให้ ส.ว. มาร่วมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี
2) นายสุพันธุ์ มงคลสุธี แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคไทยสร้างไทย ในปัจจุบันเป็นรองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย และประธานคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ ,ประธานกิตติมศักดิ์สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ,ประธานกรรมการบริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) และกรรมการบริษัทมงคลสุธีโฮลดิ้ง
เคยดำรงตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ปี 2557 – 2561 เป็นประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) 3 สมัย ,ประธานกรรมการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) ปี 2562 – 2564 ,กรรมการและที่ปรึกษาพิเศษศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ ปี 2553 - 2554 และเป็นผู้พิพากษาสมทบ ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ปี 2544 - 2548
3) นาวาอากาศตรีศิธา ทิวารี (ผู้พันปุ่น) แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคไทยสร้างไทย เป็นอดีตเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย ปี 2565-2566 เคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปี 2546 รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปี 2548 เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปี 2555 และที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปี 2556-2557
น.ต.ศิธา ทิวารี จบโรงเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 24(ต.ท.24) และเป็นประธานรุ่น 24 ,ปริญญาตรีวิทยาศาสตร์บัณฑิต จาก โรงเรียนนายเรืออากาศ
,หลักสูตรผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ 16 ของ สถาบันวิทยาการตลาดทุน (วตท.) และโรงเรียนนายทหารชั้นผู้บังคับฝูง รุ่นที่ 8 รับราชการในสังกัดกองทัพอากาศ ตำแหน่งสุดท้ายก่อนลาออกจากราชการ คือรองหัวหน้าแผนกแผนร่วม กองนโยบายและแผน กรมยุทธการทหารอากาศ กองทัพอากาศ เพื่อเข้าสู่เส้นทางการเมือง
เคยเป็นประธานกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ,ประธานกรรมการ บริษัทจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน)