ดร.อุตตม สาวนายก ประธานคณะกรรมการจัดทำนโยบายพรรคพลังประชารัฐ ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ และนายสกลธี ภัทธิยกุล กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ และหัวหน้าทีมกรุงเทพฯ เดินทางมาเนชั่นทีวี 22 เพื่อเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.กทม. 33 เขต
โดยมี นายฉาย บุนนาค ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารเนชั่นกรุุ๊ป และผู้บริหาร เนชั่นกรุ๊ป ให้การตอนรับ
ภายหลังการการแนะนำตัวผู้สมัคร ส.ส.กทม. และนำเสนอนโยบายต่อคน กทม. ดร.อุตตม กล่าวแสดงความมั่นใจนโยบายพรรคพลังประชารัฐ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า สามารถทำได้แน่ และทำได้จริง โดยเน้นนโยบายที่ยึดโยงกับพื้นที่ทุกแห่งของประเทศ เพื่อทุกพื้นที่จะมีการพัฒนา และตอบโจทย์ประเทศได้
พรรคพร้อมเต็มที่ในการทำงานในสภาแทนประชาชน ผ่านบุคลกร ผู้นำและทีมงานพรรค ขณะนี้ประเทศเจอความท้าทายจากปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง เรามีประสบการณ์จากการทำงานเป็นทีม ที่ทำได้จริงและปฎิบัติได้จริง
“ความโดดเด่นของพรรคเรามากจาก 1.บุคลากรผู้สมัครของพรรค 2.นโยบายที่โดดเด่น 3.ทีมงาน โดยพล.อ.ประวิตรมีความเป็นผู้นำที่เด็ดขาด และสามารถระดมคนจากทุกฝ่ายเพื่อก้าวข้ามความขัดแย้งมาร่วมพัฒนาประเทศ”
ขณะที่ ดร.นฤมล กล่าวว่าจุดขายในเชิงนโยบายของพรรคพลังประชารัฐที่โดดเด่นที่สุด คือนโยบายสวัสดิการประชารัฐ ซึ่งถือว่าจุดเริ่มต้นมาจากพรรคพลังประชารัฐ จำง่ายๆ “เลือกลุงป้อม 3700” มาจากนโยบายเบี้ยผู้สูงอายุ 3,000 บาท และนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 700 บาท ตอนนี้ทุกอย่างจะผูกให้เป็นหมายเลข 37 คือ 3 นโยบายเร่งด่วน 7 นโยบายเร่งรัด และย้ำจึดยืนไม่เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร
“พรรคพลังประชารัฐมีจุดยืน ตั้งแต่การเลือกตั้งปี 62 โดยเรายึดมั่นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เรามีผู้แทนทุกปัญหาต้องจบในสภาไม่สนับสนุนการสร้างความขัดแย้ง และไม่ทำให้ประชาชนต้องลงถนน ซึ่งพรรคไม่เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร และจะไม่ร่วมกับพวกทุจริตคอร์รัปชั่น”
ขณะที่นายสกลธี กล่าวเสริมว่า พล.อ.ประวิตร เป็นคนพูดน้อย แต่ทำเยอะ เลือกคำเหมาะกับงานที่ความถนัด ไม่ใช่เป็นพระเอกอยู่คนเดียว อันไหนไม่ถนัดก็จะให้คนที่ถนัดกว่าทำ นี่คือเหตุผลที่ “ลุงป้อม”ไม่ร่วมเวทีดีเบต กับพรรคการเมื่องอื่น
การเลือกตั้งครั้งนี้พรรคพลังประชารัฐ มั่นใจเกิน100 ประเมินเสียงคาดว่าน่าจะประมาณ 70 ที่นั่ง บวก-ลบ มั่นใจว่าตัวเลขนี้สามารถทำได้แน่นอน แม้ว่าพรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ จะมาจากฐานคะแนนเสียงเดียวกัน พร้อมยอมรับว่า ในสนามเลือกตั้งไม่มีพี่น้อง
"หากให้ประเมินสถานการณ์เลือกตั้ง ส.ส.พลังประชารัฐ น่าจะอยู่สัก 60-70 ที่นั่ง ส่วนที่โพลที่ออกมาประเมินพรรคต่ำนั้น ตนไม่ได้ห่วง เพราะโพลก็คือโพลอย่างตอนที่ตนลงเลือกตั้งผู้ว่ากทม. ก็มีการประเมินว่าตนได้ 1% แต่พอผลเลือกตั้งออกมาได้ 9 %" นายสกลธีกล่าว