ดีเบตเดือด"สุชาติ ชมกลิ่น"รับของขึ้น ปมพาดพิงสถาบันการเมือง

09 เม.ย. 2566 | 02:25 น.
อัปเดตล่าสุด :09 เม.ย. 2566 | 02:56 น.

ดีเบตเวทีเนชั่น ‘สุชาติ’ เผยของขึ้นปมพาดพิงสถาบันการเมือง พร้อมลุก"ปกป้องสถาบัน" ย้ำไม่หวั่นเสียคะแนนดีกว่าสูญเสียความเป็นคนนักการเมือง

นายสุชาติ  ชมกลิ่น  รมว.แรงงาน และผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยผ่านผ่าสมรภูมิเลือกตั้ง เนชั่นทีวี  ถึงเหตุการณ์เวทีดีเบตเนชั่น ที่จัดขึ้นที่พัทยาเมื่อเย็นวันที่ 8 เมษายน  2566  จนเกิดเหตุปะทะคารมเดือดกับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ตัวแทนจากพรรคก้าวไกล ถึงขนาดผู้ดำเนินรายการต้องปิดไมค์ ว่า บนเวทีถ้าเป็นการการดีเบต แสดงวิสัยทัศน์ของแต่ละพรรคก็ว่ากันไป  แต่ไม่ใช่มาด้อยค่าสถาบันการเมืองด้วยกัน

“ผมฟังแล้วมีความรู้สึกของขึ้น  นักการเมืองไม่เป็นประชาธิปไตย  รับใช้เผด็จการ นักการเมืองพวกนี้เป็นขี้ข้าเผด็จการ ผมก็ต้องถามกลับว่า ไม่เป็นประชาธิปไตยตรงไหนเลือกตั้งมานี่  แล้วเราเป็นนักการเมืองไม่ว่าเป็นฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาล  คนมาด่านักการเมืองนั่งทนดูได้ไง  ต้องถามเขากลับว่า นักการเมืองไม่ดีไม่เป็นประชาธิปไตย จะมาเป็นนักการเมืองทำไม  แล้วมาโบ้ยว่า  สว. 250 คน เกี่ยวอะไร คราวที่แล้วโหวตเลือกนายกฯ ก็ใช้เสียง  ส.ส. 253 ก็ชนะ”  

นายสุชาติ กล่าวต่อไปว่า แล้วนายธนาธร ยังมาบอกว่า กกต.มาแก้คะแนนให้ เกี่ยวอะไร ก็ไปคุยกับกกต. เกี่ยวอะไรกับนักการเมือง คนละประเด็น 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้เคยกล่าวผ่านรายการผ่าสมรภูมิเลือกตั้ง เกี่ยวกับสถาบันการเมือง โดยจะแสดงท่าปกป้องสถาบันการเมืองเป็นพิเศษ  นายสุชาติ กล่าวว่า  นักการเมืองไม่ว่าเป็นฝ่ายค้านและรัฐบาล นักการเมืองท้องถิ่น ท้องที่ เป็นนักการเมืองรับใช้ประชาชน มาจากการเลือกตั้ง โดยคะแนนเสียงประชาชน ไม่ใช่ใครคนใดคนหนึ่งมาบอกว่านักการเมือง ไม่เป็นประชาธิปไตยรับใช้เผด็จการอย่างไร

“การเลือกตั้งโดยคะแนนเสียงประชาชน โหวตในสภา ที่หอประชุมทีโอที โหวตเดียวกันหมด จะไม่เป็นประชาธิปไตยได้ยังไง ถ้าอย่างนั้นคุณก็บิดเบือน วาทกรรมแบบนี้ทำให้สังคมแตกแยก คุณมีสมองคิดแค่นี้ จะเสียสละมาเป็นตัวแทนประชาชนทำไม” นายสุชาติ กล่าว   

“ผมจะพูดว่า พรรคคุณจะพูดเรื่องนโยบายเป็นอย่างไรก็หาเสียงไป  ทำได้ไม่ได้ประชาชนตัดสิน แต่อย่ามาด่าสถาบันการเมืองด้วยกันไม่ได้ เหมือนเรามีโรงเรียน มีสถาบันการศึกษา มาด่าสถาบันเรา โกรธไหม  นี่นักการเมืองทุกคนหาเสียงเอาตัวรอด ไม่คิดสถาบันการเมืองด้วยกันปล่อยให้ชาวบ้าน หรือน้องๆรุ่นใหม่ ใครบ้างอยากเข้ามาเป็นนักการเมือง คุณไม่ปกป้องพวกเดียวกันเอง เด็กเก่งๆที่ไหนจะมาช่วยประเทศชาติ” นายสุชาติ กล่าว 

ส่วนเหตุการณ์บนเวทีดีเบตเมื่อเย็นวันที่ 8 เม.ย. จะทำให้ถูกขยายปมสะเทือนคะแนนนิยมหรือไม่  นายสุชาติ กล่าวว่า ไม่ชอบคนด้อยค่าคน ที่พูดเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น อย่ามาโชว์พาวแบบประเภท ชั้นเป็นประชาธิปไตยอย่างนั้นอย่างนี้ ในพรรคคุณไม่เป็นประชาธิปไตยเลย แล้วคุณจะมาสั่งคนอื่น มาด่าคนอื่นได้อย่างไร  

นายสุชาติ ยอมรับว่า  ไม่ใช่แค่ช่วงที่นายธนาธรพาดพิงสถาบันการเมืองแล้วทำให้ตนของขึ้น แต่มีเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ตนก็ฟัง เขาพูดพาดพิงนโยบาย แรงงานของรัฐบาลแล้ว  แล้วมาบอกว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ ได้โบนัสมาสิบกว่าปีแล้ว  ก็บอกว่า ถ้าไม่แก้โควิดให้เขารอด ไม่ปกป้องเขา ให้อยู่รอด จะได้โบนัสแบบนี้ไหม

“เขาออกอาการกวนมาแล้วครั้งหนึ่งผมยังเอะใจ บริษัทแท้ๆ เอาคนออกกี่ร้อยราย ยังไม่จ่ายเขา  มาฟ้องอยู่เนี่ยะ ตัวเองยังทำไม่ดี มาสอนคนอื่นเขา ผมยังมีความรู้สึกว่า คุยอย่างนี้มันไม่ใช่เพื่อนในสถาบันการเมือง ไม่ควรเป็นนักการเมือง” นายสุชาติ กล่าว 

ถามย้ำจะมีปัญหาต่อคะแนนนิยมหรือไม่  นายสุชาติ กล่าวยืนยันว่า ไม่เป็นห่วงต่อคะแนนนิยมเลย  รักสถาบันการเมืองสำคัญกว่า ตนไม่สนใจ ผมทำในสิ่งที่ปกป้องเพื่อนการเมืองทั้งหมด ไม่ได้สนใจว่าทำไมคนเราต้องชนะได้คะแนนนิยม โดยบิดเบือนความเป็นจริงหรือ ให้คนโกหก อยู่ในสังคมจอมปลอมแบบนี้หรือ ผมไม่ได้ยึดติดว่าจะได้คะแนนเท่าไหร่ ผมยึดติดว่า ถ้าผมเป็นนักการเมือง แล้วอยู่สถาบันการเมืองอย่าด้อยค่าสถาบันการเมืองด้วยกัน 

“ผมขอเรียกร้องเลยนักการเมืองทุกคน คุณปล่อยคนด่าสถาบันการเมืองแบบนี้ คุณทนดูกันได้อย่างไร แล้วผมคะแนนลดลงจากที่ผมว่าเขาหรือ ผมว่าในสิ่งที่ถูกต้อง หรือให้นั่งอยู่เฉยๆ กลับบ้าน แล้วผมนั่งคิดในใจปล่อยให้เขาด่า นักการเมืองบนเวทีแบบนี้ แล้วต่อไปเด็กรุ่นใหม่ๆที่อยากเสียสละประเทศชาติบ้านเมือง ใครจะเข้ามาสู่วงการการเมือง”  นายสุชาติ กล่าว

นายสุชาติ ยังได้ยกตัวอย่าง  คุณอยู่สถาบันสื่อมวลชน  แล้วสมมติผมด่าสื่อมวลชน ห่วยแตกรับเงิน คุณต้องเดือดร้อนแทนกันไหม ช่องอื่นต้องออกมาป้องไหม เรามีองค์กร สถาบันสื่อมวลชน  สมมติ นักการเมืองด่าสื่อ คุณโกรธไหม แล้วนี่ คุณจะเป็นนักการเมืองมาด่านักการเมืองด้วยกัน จะมาเป็นนักการเมืองได้ไง

เมื่อถามว่า ผู้พูดต้องการแบ่งแยก ว่ากลุ่มนี้ฝักใฝ่เผด็จการ นายสุชาติ กล่าวว่า  เผด็จการตรงไหนก็เลือกตั้งเดินเข้าคูหาด้วยกันทุกคน ถ้าคุณไม่พร้อมรับกติกาอย่ามาเป็นนักการเมือง เขากากบาทหนึ่งสิทธิหนึ่งเสียง แล้วคุณว่าไม่เป็นประชาธิปไตยตรงไหน ตนยังงงเลย 

เมื่อถามว่า เป็นความพยายามสร้างวาทกรรมเรียกคะแนนน  นายสุชาติ กล่าวว่า  สไตล์เขาอยู่แล้ว เผอิญมาเจอคนอย่างผม เป็นไง  คนอื่นไม่พูด เพราะไม่อยากทะเลาะ เขากลัวเสียคะแนนก็เรื่องของเขา ผมไม่กลัวเสียคะแนนกลัวเสียความเป็นคนมากกว่า 

เมื่อถามว่า ที่ลุกขึ้นจากเก้าอี้ มีอารมณ์ระดับไหน  นายสุชาติ กล่าวยอมรับว่า “คิดว่าในใจว่า พูดจาใช้ไม่ได้  ผมไม่เคยว่านโยบายใครทำอะไรทำไปเถอะ เรื่องพรรคหาเสียง แต่ไอ้นี่ มาด้อยค่าสถาบันนักการเมืองด้วยกัน จะมาเป็นนักการเมืองทำไม สมมติเป็นสื่อนั่งอยู่ด้วยกันหกคน มีคนหนึ่งพูดว่า ผมต้องเป็นสื่อที่ดี สื่อที่ผ่านมา ห่วยแตก รับเงินมา ไม่เป็นธรรม เป็นคุณจะทนไหวไหม  ผมก็เป็นคนอย่างนี้หล่ะ ผมเป็นคนตรง”