“มาดามเดียร์” สุดฟิต นำประชาธิปัตย์ เบอร์ 26 ลุยหาเสียง 3 เขต เช้ายันค่ำ

30 เม.ย. 2566 | 13:40 น.
อัปเดตล่าสุด :30 เม.ย. 2566 | 13:44 น.

“มาดามเดียร์”สุดฟิต นำ "ประชาธิปัตย์ เบอร์ 26" ลุย 3 เขต 8 จุด เช้ายันค่ำ ช่วย “วณิชชา ม่วงศิริ” หาเสียง มั่นใจทีมม่วงศิริไม่เคยทิ้งประชาชน ด้าน “องอาจ” ยันทีมม่วงศิริทำงานไม่ทิ้งพื้นที่ ตั้งแต่รุ่นพ่อถึงรุ่นลูก ขณะที่ “วณิชชา” ขอโอกาสเป็น ส.ส.รับใช้ประชาชน

เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 66 ที่หมู่บ้านเอื้ออาทร เขตหนองแขม น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ ลุยพื้นที่เขตจอมทอง เขตบางบอน เขตหนองแขม และเขตบางขุนเทียน เพื่อช่วยหาเสียงสนับสนุนให้กับ น.ส.วณิชชา ม่วงศิริ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตบางบอน-หนองแขม-จอมทอง หมายเลข 9 

โดยเริ่มตั้งแต่เช้า เวลา 07.00 น. ลงพื้นที่ตลาดวัดไทร เขตจอมทอง เวลา 9.30 น. พบปะประชาชนและปราศรัยย่อยที่บริเวณลานกีฬาหมู่บ้านบางบอนวิลล่า เขตบางบอน ต่อด้วย เวลา 10.30 น. ปราศรัยย่อยลานกีฬาหมู่บ้านสังสิทธิ์ เขตบางบอน และปิดท้ายครึ่งวันแรกในเวลา 11.30 น. ด้วยการปราศรัยย่อยลานกีฬา หมู่บ้านแม้นทอง เขตบางบอน
 

จากนั้น เวลา 14.30 น. น.ส.วทันยา พร้อมด้วย น.ส.วณิชชา ลงพื้นที่ต่อ โดยการจัดปราศรัยย่อยสนามกีฬา หมู่บ้านนิสา เฟส 4 เขตหนองแขม และเวลา 15.30 น. ปราศรัยย่อยพฤกษาการ์เด้นท์ เขตหนองแขม ต่อด้วยเวลา 16.30 น. ปราศรัยย่อยหมู่บ้านเพชรมณฑลกรีน เขตหนองแขม 

และปิดท้ายของวันในเวลา 17.30 น. ด้วยการจัดกิจกรรมปราศรัยรถโชว์ โพลีซี ที่หมู่บ้านเอื้ออาทร เขตหนองแขม ซึ่งในกิจกรรมสุดท้ายนี้มีนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายสากล ม่วงศิริ ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตบางขุนเทียน-บางบอน หมายเลข 6 และนายสุวัฒน์ ม่วงศิริ ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตบางขุนเทียน-จอมทอง หมายเลข 12 ร่วมในการปราศรัยด้วย

นายองอาจ กล่าวว่า เดิมทีตระกูลม่วงศิริได้รับใช้พี่น้องในเขตพื้นที่มาโดยตลอด แต่หลังจากเกิดสถานการณ์พิเศษทำให้พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง กทม. เลยแม้แต่เขตเดียว 

อย่างไรก็ตาม ในช่วงการระบาดของโควิด-19 พรรคประชาธิปัตย์ก็เป็นพรรคแรกที่ตั้งศูนย์ประสานงานหาเตียงพยาบาลมา 4,000-5,000 เตียง ตั้งศูนย์พักคอยให้ประชาชนแยกออกมาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย รวมทั้งแจกอาหารและถุงยังชีพให้ประชาชน 

แม้ว่าคนตระกูลม่วงศิริ ไม่มีอำนาจ ไม่มีตำแหน่งและงบประมาณ แต่ลงพื้นที่ช่วยพี่น้องประชาชนไม่ขาดสาย ตั้งแต่รุ่นพ่อมาจนถึงรุ่นลูก ไม่ใช่เพิ่งมาทำงานช่วงใกล้เลือกตั้ง ตนจึงขอร้องพี่น้องประชาชนให้เลือกตระกูลม่วงศิริเข้าไปรับใช้พี่น้องประชาชน

ขณะที่ น.ส.วทันยา ได้ตั้งคำถามว่า ส.ส.ที่เคยเลือกไปเมื่อครั้งก่อนได้กลับมาดูแลเราบ้างหรือไม่ ซึ่ง 4 ปีรู้ซึ้งอยู่แก่ใจแล้วว่า ส.ส.ที่เราเลือกเขาเข้าไปในสภา แต่เขากลับไม่เหลียวแลมาดูแลเรา 

ดังนั้น ถึงเวลาแล้วในวันที่ 14 พ.ค.นี้ ที่เราจะต้องเปลี่ยน เปลี่ยนมาเลือกผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ น.ส.วณิชชา และครอบครัวม่วงศิริ เพราะแม้ในวันที่ไม่มีตำแหน่งทางการเมือง แต่ครอบครัวม่วงศิริก็ไม่เคยทอดทิ้งพี่น้องประชาชน ไม่เคยทอดทิ้งพื้นที่

“มันคือการพิสูจน์ให้เห็นว่า 4 ปีที่ผ่านมา ใครรักและตั้งใจดูแลเรา และมั่นใจว่าม่วงศิริ และพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมความเดือดร้อนของพี่น้องในพื้นที่ ส.ส. สามารถช่วยเหลือได้จริง แม้จะไม่มีอำนาจในการไปสั่งส่วนราชการได้ แต่เขาสามารถนำปัญหาไปสะท้อนในสภาเพื่อให้สภาแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาได้ 

นี่คือสิ่งสำคัญและอย่าคิดว่าการเลือก ส.ส.เป็นเรื่องไกลตัว ดังนั้นการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 14 พ.ค.นี้ จะเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่ง เป็นวันที่เราจะได้เลือกอนาคตของตัวเอง เลือกอนาคตประเทศ และที่สำคัญจะต้องไม่เลือก ส.ส. ที่ถูกประมูลตัว ส.ส.ที่เห็นเงิน เห็นผลประโยชน์มาก่อนประชาชน เพราะ ส.ส.ที่ย้ายตามเงิน ย้ายตามนายทุนไปนั้น เมื่อเขาเข้าไปในสภา ขอถามว่าเขาจะเลือกผลประโยชน์ใครระหว่างนายทุนกับประชาชน”
 


ด้าน น.ส.วณิชชา กล่าวว่า ตนเป็นน้องคนสุดท้องของทีมงานม่วงศิริ ที่มีความมุ่งมั่น ตั้งใจจริง ที่จะมาช่วยเหลือพี่น้องชาวบางบอน-จอมทอง-หนองแขม ทั้งตนคิดว่าบ้านเราจะดีกว่านี้ได้ และตนก็มั่นใจว่าตนสามารถทำได้ ซึ่งวันนี้ตนได้รับโอกาสจากพรรคประชาธิปัตย์ให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง 

แต่อีกสิ่งที่ตนยังขาด คือ โอกาสจากพี่น้องประชาชน วันนี้ตนจึงมาเพื่อขอโอกาสจากทุกคน ขอให้ตนได้เข้ามาดูแลพื้นที่หนองแขม เพราะหนองแขมสามารถเปลี่ยนและพัฒนาได้มากกว่านี้ เราจะทิ้งบ้านเราไม่ได้ เราจะทิ้งบ้านเราไม่ให้ได้รับการดูแลไม่ได้ ดังนั้นจึงขอเชิญชวนทุกคนมาร่วมกันพัฒนาบ้านเราให้ดีขึ้นกว่านี้