เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 66 ที่หมู่บ้านเอื้ออาทร เขตหนองแขม น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ ลุยพื้นที่เขตจอมทอง เขตบางบอน เขตหนองแขม และเขตบางขุนเทียน เพื่อช่วยหาเสียงสนับสนุนให้กับ น.ส.วณิชชา ม่วงศิริ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตบางบอน-หนองแขม-จอมทอง หมายเลข 9
โดยเริ่มตั้งแต่เช้า เวลา 07.00 น. ลงพื้นที่ตลาดวัดไทร เขตจอมทอง เวลา 9.30 น. พบปะประชาชนและปราศรัยย่อยที่บริเวณลานกีฬาหมู่บ้านบางบอนวิลล่า เขตบางบอน ต่อด้วย เวลา 10.30 น. ปราศรัยย่อยลานกีฬาหมู่บ้านสังสิทธิ์ เขตบางบอน และปิดท้ายครึ่งวันแรกในเวลา 11.30 น. ด้วยการปราศรัยย่อยลานกีฬา หมู่บ้านแม้นทอง เขตบางบอน
จากนั้น เวลา 14.30 น. น.ส.วทันยา พร้อมด้วย น.ส.วณิชชา ลงพื้นที่ต่อ โดยการจัดปราศรัยย่อยสนามกีฬา หมู่บ้านนิสา เฟส 4 เขตหนองแขม และเวลา 15.30 น. ปราศรัยย่อยพฤกษาการ์เด้นท์ เขตหนองแขม ต่อด้วยเวลา 16.30 น. ปราศรัยย่อยหมู่บ้านเพชรมณฑลกรีน เขตหนองแขม
และปิดท้ายของวันในเวลา 17.30 น. ด้วยการจัดกิจกรรมปราศรัยรถโชว์ โพลีซี ที่หมู่บ้านเอื้ออาทร เขตหนองแขม ซึ่งในกิจกรรมสุดท้ายนี้มีนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายสากล ม่วงศิริ ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตบางขุนเทียน-บางบอน หมายเลข 6 และนายสุวัฒน์ ม่วงศิริ ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตบางขุนเทียน-จอมทอง หมายเลข 12 ร่วมในการปราศรัยด้วย
นายองอาจ กล่าวว่า เดิมทีตระกูลม่วงศิริได้รับใช้พี่น้องในเขตพื้นที่มาโดยตลอด แต่หลังจากเกิดสถานการณ์พิเศษทำให้พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง กทม. เลยแม้แต่เขตเดียว
อย่างไรก็ตาม ในช่วงการระบาดของโควิด-19 พรรคประชาธิปัตย์ก็เป็นพรรคแรกที่ตั้งศูนย์ประสานงานหาเตียงพยาบาลมา 4,000-5,000 เตียง ตั้งศูนย์พักคอยให้ประชาชนแยกออกมาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย รวมทั้งแจกอาหารและถุงยังชีพให้ประชาชน
แม้ว่าคนตระกูลม่วงศิริ ไม่มีอำนาจ ไม่มีตำแหน่งและงบประมาณ แต่ลงพื้นที่ช่วยพี่น้องประชาชนไม่ขาดสาย ตั้งแต่รุ่นพ่อมาจนถึงรุ่นลูก ไม่ใช่เพิ่งมาทำงานช่วงใกล้เลือกตั้ง ตนจึงขอร้องพี่น้องประชาชนให้เลือกตระกูลม่วงศิริเข้าไปรับใช้พี่น้องประชาชน
ขณะที่ น.ส.วทันยา ได้ตั้งคำถามว่า ส.ส.ที่เคยเลือกไปเมื่อครั้งก่อนได้กลับมาดูแลเราบ้างหรือไม่ ซึ่ง 4 ปีรู้ซึ้งอยู่แก่ใจแล้วว่า ส.ส.ที่เราเลือกเขาเข้าไปในสภา แต่เขากลับไม่เหลียวแลมาดูแลเรา
ดังนั้น ถึงเวลาแล้วในวันที่ 14 พ.ค.นี้ ที่เราจะต้องเปลี่ยน เปลี่ยนมาเลือกผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ น.ส.วณิชชา และครอบครัวม่วงศิริ เพราะแม้ในวันที่ไม่มีตำแหน่งทางการเมือง แต่ครอบครัวม่วงศิริก็ไม่เคยทอดทิ้งพี่น้องประชาชน ไม่เคยทอดทิ้งพื้นที่
“มันคือการพิสูจน์ให้เห็นว่า 4 ปีที่ผ่านมา ใครรักและตั้งใจดูแลเรา และมั่นใจว่าม่วงศิริ และพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมความเดือดร้อนของพี่น้องในพื้นที่ ส.ส. สามารถช่วยเหลือได้จริง แม้จะไม่มีอำนาจในการไปสั่งส่วนราชการได้ แต่เขาสามารถนำปัญหาไปสะท้อนในสภาเพื่อให้สภาแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาได้
นี่คือสิ่งสำคัญและอย่าคิดว่าการเลือก ส.ส.เป็นเรื่องไกลตัว ดังนั้นการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 14 พ.ค.นี้ จะเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่ง เป็นวันที่เราจะได้เลือกอนาคตของตัวเอง เลือกอนาคตประเทศ และที่สำคัญจะต้องไม่เลือก ส.ส. ที่ถูกประมูลตัว ส.ส.ที่เห็นเงิน เห็นผลประโยชน์มาก่อนประชาชน เพราะ ส.ส.ที่ย้ายตามเงิน ย้ายตามนายทุนไปนั้น เมื่อเขาเข้าไปในสภา ขอถามว่าเขาจะเลือกผลประโยชน์ใครระหว่างนายทุนกับประชาชน”
ด้าน น.ส.วณิชชา กล่าวว่า ตนเป็นน้องคนสุดท้องของทีมงานม่วงศิริ ที่มีความมุ่งมั่น ตั้งใจจริง ที่จะมาช่วยเหลือพี่น้องชาวบางบอน-จอมทอง-หนองแขม ทั้งตนคิดว่าบ้านเราจะดีกว่านี้ได้ และตนก็มั่นใจว่าตนสามารถทำได้ ซึ่งวันนี้ตนได้รับโอกาสจากพรรคประชาธิปัตย์ให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง
แต่อีกสิ่งที่ตนยังขาด คือ โอกาสจากพี่น้องประชาชน วันนี้ตนจึงมาเพื่อขอโอกาสจากทุกคน ขอให้ตนได้เข้ามาดูแลพื้นที่หนองแขม เพราะหนองแขมสามารถเปลี่ยนและพัฒนาได้มากกว่านี้ เราจะทิ้งบ้านเราไม่ได้ เราจะทิ้งบ้านเราไม่ให้ได้รับการดูแลไม่ได้ ดังนั้นจึงขอเชิญชวนทุกคนมาร่วมกันพัฒนาบ้านเราให้ดีขึ้นกว่านี้