"เศรษฐา"ประกาศยอมติดคุก ป้องลูกหลานถูกมอมเมากัญชา

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 4 พ.ค.66 พรรคเพื่อไทย  (พท.)เปิดเวทีปราศรัย คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน ณ สนามสามเหลี่ยม ทุ่งนาเชย อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี นำโดย นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมแกนนำพรรค โดยนายเศรษฐา ขึ้นบนเวทีปราศรัยช่วย 3 ผู้สมัคร ส.ส.จันทบุรี พรรค พท. ได้แก่ นายมงคล ศรีคำแหง เขต 1  นายวันทิต ตั้งรักษาสัตย์ เขต 2  และนายแสนคม อนามพงษ์ เขต 3 

นายเศรษฐา ปราศรัยว่า ปัญหาที่ประชาชนประสบอยู่ขณะนี้เกิดจากนายกฯไม่มีวิสัยทัศน์พาประเทศเจริญ และเพิ่มรายได้ให้ประชาชน หรือปัญหาเรือประมงออกไปจับปลาไม่ได้ เพราะไปเซ็นสัญญาอัปยศกับอียูจนชาวประมงไปทำมาหากินไม่ได้ พรรคร่วมรัฐบาลต่างๆ ก็ไม่มีใครมาช่วยแก้ปัญหา จ.จันทบุรี มีของดีอยู่มาก โดยเฉพาะเรื่องผลไม้ แต่นายกฯไปเปิดตลาดให้บ้างหรือไม่

แต่นายกฯพรรค พท. จะเดินทางไปทุกหย่อมหญ้า หาตลาดผลไม้ให้เกษตรกร ใช้การตลาดนำ ให้ราคาสินค้าสูงขึ้น ภายใน 4 ปีที่เป็นรัฐบาล รายได้สุทธิเกษตรกรจะเพิ่มขึ้น 3 เท่าตัว รวมถึงจะผลักดันพลอย จ.จันทบุรี เป็นซอฟต์พาวเวอร์มีชื่อเสียงไปทั่วโลก
 

นายเศรษฐา ปราศรัยว่า ขณะที่เรื่องกัญชาเสรีที่พรรคการเมืองหนึ่งมาหาเสียงที่นี่บอกจะทำให้"กัญชาเสรี" สูบพี้กันเมามัน หลายคนรับไม่ได้ ตนไม่ได้เป็นศัตรูกับพรรคนั้น แต่เป็นศัตรูกับกัญชา ไม่อยากให้ลูกหลานถูกมอมเมา แต่พูดกับก็กระเทือนพรรคนั้น ถึงขั้นไปฟ้องตน

แต่ตนยอมติดคุก เพื่อไม่ให้ลูกหลานถูกมอมเมาด้วยกัญชา ถ้าเลือกพรรคนั้นมา ลูกหลานจะถูกมอมด้วยกัญชา อย่ายอมเด็ดขาด ขอให้สู้ไปด้วยกัน วันเลือกตั้งอย่าปันใจให้ใคร พรรค พท. มาคนเดียว ไม่มีพรรคพี่น้อง ขอให้เทใจกาบัตรทั้งสองใบให้พรรค พท.

ด้าน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวพรรคเพื่อไทย ปราศรัยว่า มีประชาชนตั้งคำถามมากมาย พรรค พท. จะถูกยุบพรรคหรือไม่  ขณะนี้เหลือ 10 วัน จะเลือกตั้ง ไม่มีทางยุบพรรคทันก่อนวันเลือกตั้ง แต่ถ้าจะยุบพรรคหลังเลือกตั้ง ถ้าได้เกินครึ่งหรือแลนด์สไลด์ ถึงจะยุบพรรคก็ยังตั้งรัฐบาลได้ เพราะส.ส.ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค ได้เป็นส.ส.ไปบริหารงานแล้ว

แต่เชื่อว่าไม่มีใครกล้าเล่นเกมยุบพรรคแล้ว เพราะถ้ายุบพรรคนี้ ก็ไปโผล่พรรคอื่น สกัดไม่อยู่ ขอให้ยอมรับการตัดสินใจประชาชน เที่ยวนี้ถ้าประชาชนเลือกพรรค พท. อะไรก็ขวางไม่อยู่ มีแต่กิเลสคนเท่านั้นที่ยังขวางทางอยู่

นายณัฐวุฒิ ปราศรัยว่า อีกฝ่ายรู้ว่าลงแข่งยังไงก็แพ้ แต่ก็จะตั้งรัฐบาลให้ได้ ถ้าพรรค พท. ได้เสียงไม่ถึงครึ่ง ก็จะรวมตัวในขั้วรัฐบาลเดิม รวมกับเสียงส.ว. ให้ตั้งนายกฯขึ้นมาก่อน จากนั้นค่อยยื่นผลประโยชน์กล้วย เก้าอี้รมต. ให้ส.ส.มาอยู่ด้วยกัน จะเล่นแบบนี้ เมื่อวานนี้ (3พ.ค.) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯพูดชัด การตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยไม่ทำกัน แต่ถ้าจำเป็นก็ต้องตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยขึ้นมาก่อน แล้วมันก็จะค่อยๆ มากขึ้นเอง

แสดงว่า มีแผนทำแบบที่ตนพูด ทำกล้วยตก เก้าอี้ตก จากเสียงข้างน้อยเป็นข้างมาก แค่คิดก็อัปยศ ทำลายประชาธิปไตย เหยียบย่ำเกียรติยศประชาชน ดังนั้นเพื่อตัดปัญหาต้องเลือกพรรค พท. ให้แลนด์สไลด์ปิดเกมไปเลย

ด้านนายจาตุรนต์ ฉายแสง ขึ้นปราศรัยเป็นคนสุดท้ายกล่าวว่าเพราะประเทศไม่เป็นประชาธิปไตย มีผู้นำที่ไร้ความสามารถ ทำให้เครื่องจักรเศรษฐกิจทุกตัวทั้งส่งออก ท่องเที่ยว ประมง ราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำทั้งหมด เพราะต่อให้ประยุทธ์ไปเขาก็ไม่เจรจาด้วย

ดังนั้น จะแก้ไขปัญหาได้ต้องเริ่มต้นที่รัฐบาลประชาธิปไตยก่อนเป็นเรื่องแรก เพื่อกลับมาเริ่มต้นเจรจาการค้า FTA หาตลาดใหม่ให้พืชผักผลไม้ สร้างรายได้จากนั้น จึงค่อยไปตามแก้กฎหมายไม่เป็นประชาธิปไตยด้วยการแก้ไขหรือยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เอายุทธศาสตร์ชาติออกไป เช่นนี้แล้ว ประชาธิปไตยก็จะเดินหน้าควบคู่ไปกับเศรษฐกิจ เป็นประชาธิปไตยกินได้