"สกลธี" ปราศรัยใหญ่ ย้ำ "พปชร." ลุยก้าวข้ามความขัดแย้ง

(12 พ.ค. 66) นายสกลธี ภัททิยกุล กรรมการบริหาร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะดูแลรับผิดชอบพื้นที่ กรุงเทพฯ ขึ้นกล่าว "ปราศรัยใหญ่" ณ อาคารกีฬาเวสน์ 2 สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่นดินแดง ว่า อยากให้ทุกคนเข้าใจถึงระบอบประชาธิปไตยนั้น ไม่ได้แปลว่าเสียงข้างมากจะถูกต้องทุกอย่าง 

ซึ่งการชนะเลือกตั้งทำให้มีโอกาสบริหารบ้านเมือง แต่ไม่ได้ทำให้อยู่เหนือกฎหมาย เพราะถ้าทำแบบนั้นบ้านเมืองอาจลุกเป็นไฟ 

จึงอยากถามว่าทุกคนอยากเห็นประเทศมีความขัดแย้งแบบที่ผ่านมา 20 ปีหรือไม่ ดังนั้นการชูแนวทางการก้าวข้ามความขัดแย้งจึงเป็นยิ่งกว่านโยบายของพรรค เพราะถ้าเราก้าวข้ามความขัดแย้งไม่ได้ มีนโยบายดีแค่ไหนก็ไม่มีค่า เพราะประเทศจะไม่เหลืออะไรเลย

"เราอยากเห็นประเทศเดินไปทางไหน มีความมั่นคงไม่มีอุบัติเหตุที่ต้องทำให้สะดุด หรือทำให้ธุรกิจล้ม หรืออยากเห็นบ้านเมืองแตกแยกทางความคิดรุนแรง คนรุ่นใหม่ไปทาง คนรุ่นเก่าไปทาง เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าตลอด 20 ปีที่ผ่านมา การเมืองไทยในทุกระดับติดหล่มความขัดแย้ง ทั้งการเมืองท้องถิ่น ไปจนถึงระดับชาติ เลือกด้วยความเกลียดชัง พวกฉัน พวกเธอ สีนั้น สีนี้ โดยไม่ได้ดูว่าผู้สมัครมีคุณภาพอย่างไรบ้าง หรือแต่ละพรรคเสนอนโยบายอะไรบ้าง และยังเห็นความรุนแรงจากความเห็นต่างอยู่เสมอ" นายสกลธี กล่าว

นอกจากนี้อย่าง 2 วันที่ผ่านมา นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ก็ถูกบุกไปตบหน้า เพียงเพราะนายศรีสุวรรณ ทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ 

แต่ทำให้กองเชียร์ฝ่ายตรงข้ามไม่พอใจ แต่ที่น่าแปลกใจ มีคนสะใจ และมีคนให้รางวัลกับคนลงมือ เราจะปล่อยให้ประเทศเป็นแบบนี้หรือไม่ 

รวมทั้งการตรวจสอบคุณสมบัตินักการเมืองกรณีถือหุ้น ทุกคนที่อาสาเข้ามาเป็นผู้แทนต้องยอมรับการตรวจสอบให้ได้ เคารพข้อห้าม ที่พูดเรื่องนี้เพราะเป็นห่วง 

เนื่องจากมีแกนนำบางพรรคเมืองพูดว่าถ้าได้รับการเลือกตั้งถล่มทลาย ถ้ามีการใช้กฎหมายทำให้โดนถอดถอน บ้านเมืองลุกเป็นไฟแน่ เพราะประชาชนไม่ยอม 

ซึ่งการพูดแบบนี้ เพราะมีธงอยู่แล้วถ้าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมาบ้านเมืองจะลุกเป็นไฟ 

จึงอยากเตือนสติว่า ไม่ว่าคุณจะได้รับการเลือกตั้งแบบถล่มทลายมากแค่ไหนก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าจะทำอะไรก็ได้ จะใช้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย จะเอามวลชนมาพิพากษาหรือฟอกผิดให้ใครไม่ได้ แล้วบ้านเมืองจะอยู่อย่างไรมวลชนปะทะกันบ้านเมืองจะสงบสุขได้อย่างไร

แม้การก้าวข้ามความขัดแย้งจะเป็นคำตอบของประเทศ แต่จะมีเส้นที่ก้าวข้ามไม่ได้ คือ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ที่เป็นเสาหลักของประเทศนี้ 

ดังนั้น หากพรรคใดไม่เอา ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ หรือทำการใดให้สั่นคลอน ถึงจะขัดแย้งก็ต้องขัดแย้งเพราะยอมรับไม่ได้ เป็นจุดยืนที่เข้มแข็งที่สุดของ พปชร.

ขณะที่การก้าวข้ามความขัดแย้ง ลำพังประชาชนทำอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีคนที่เป็นตัวกลางนำก้าวข้ามความขัดแย้ง พปชร.มี "ลุงป้อม" หรือ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ สาเหตุที่เสนอ ลุงป้อม เพราะลุงป้อมเป็นศูนย์รวมจิตใจของทุกคน และเป็นคนที่รับฟังทุกๆ คน

อย่างไรก็ตาม ประเทศไม่ใช่ของเล่น ต้องไม่เอาผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ หาเสียงแต่ในเรื่องที่ไม่มีประโยชน์ คอยแต่สร้างความเกลียดชัง เรายอมไม่ได้