เลือกตั้ง 2566 สำหรับประชาชนชาวไทยที่มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป สามารถไปใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งได้ในเขตพื้นที่ที่ตนเองมีรายชื่อตามทะเบียนบ้าน
กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) จะเริ่มเปิดหีบลงคะแนนเสียง ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. ไม่มีการพักเที่ยง รับบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ โดยผู้ลงคะแนนเสียงจะต้องกาบัตรทั้ง 2 ใบในคูหาเลือกตั้ง
1.บัตรเลือกตั้ง 2566 สีม่วง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ไม่มีรายชื่อของ ส.ส. หรือโลโก้พรรคการเมือง
2.บัตรเลือกตั้ง 2566 สีเขียว ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ มีรายชื่อและโลโก้พรรคการเมือง
ประชาชนสามารถเข้า ตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง รวมทั้งหน่วยเลือกตั้งที่ไปลงคะแนน ได้ที่เว็บไซต์ของสำนักบริหารการทะเบียน ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยกรอกเลขบัตรประชาชน 13 หลัก ระบบจะแจ้งรายละเอียด
การออกไปใช้สิทธิจะต้องมี "บัตรประจำตัวประชาชน" ใช้เป็นหลักฐานในการแสดงตน เพื่อขอใช้สิทธิเลือกตั้ง
หากใครที่ทำบัตรประชาชนสูญหายในช่วงวันเลือกตั้ง ให้เลือกใช้บัตรอื่นๆ ที่หน่วยงานราชการออกให้ รวมไปถึงบัตรประชาชนอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเป็นหลักฐานในการลงคะแนนเสียงได้เช่นเดียวกัน ดังนี้
แต่ถ้ายังไม่มีทั้งบัตร และสมาร์ทโฟน เพื่อแสดงตนเราสามารถเดินทางไปทำบัตรประชาชนใหม่ได้ โดยได้เปิดให้บริการจัดทำบัตรประจำตัวประชาชนในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ณ สำนักทะเบียนอำเภอ เขต เทศบาลทั่วประเทศในวันที่ 13-14 พฤษภาคม ตั้งแต่เวลา 08.30–16.30 น.
เมื่อถึงเวลา 17.00 น. กปน. จะปิดการลงคะแนน และปฏิบัติหน้าที่เป็นกรรมการนับคะแนน โดยดำเนินการให้มีการนับคะแนน และรวมผลคะแนนเป็นลำดับต่อไป
กกต. ทำระบบ ECT Report รวบรวมคะแนนจากหน่วยเลือกตั้งต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อรายงานผลคะแนนการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ เน้นความถูกต้อง รวดเร็ว ประชาชนเห็นผลคะแนนตั้งแต่หน่วยเลือกตั้งหน่วยแรกนับคะแนนเสร็จ และรู้ผลในคืนวันเลือกตั้ง
โดย กปน. แต่ละหน่วยเลือกตั้ง ถ่ายรูปแบบรายงานผลการนับคะแนนเลือกตั้ง ส.ส. ทั้งแบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อ ส่งให้ศูนย์รวมคะแนน อำเภอ/เขตปกครอง หรือ อนุ กกต. เขตบันทึกผลคะแนนเลือกตั้ง
ติดตามผลการเลือกตั้งผ่านทางเว็บไซต์รายงานผลคะแนนเลือกตั้ง ส.ส. อย่างไม่เป็นทางการ (www.ectreport.com)
ทั้งนี้ สามารถอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง การเลือกตั้ง ข้อสงสัย กฎ กกต. เพิ่มเติมได้ที่นี่