"พิธา"ชี้ถึงเวลาพรรคฝ่ายค้านตั้งรัฐบาล เปลี่ยนประเทศไทย

14 พ.ค. 2566 | 11:50 น.
อัปเดตล่าสุด :14 พ.ค. 2566 | 12:22 น.

"พิธา"ชี้ถึงเวลาพรรคฝ่ายค้านตั้งรัฐบาล เปลี่ยนประเทศไทย เชื่อโพลพื้นที่ กทม. เป็นไปตามผล ส่วนต่างจังหวัดอาจจะคาดเคลื่อน ระบุยังไม่มีการพูดคุยกับพรรคเพื่อไทย ย้ำจุดยืนพรรคลุงไม่อยู่ใน ครม.

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังปิดหีบบัตรลงคะแนนเลือกตั้ง 2566 ว่า สิ่งที่น่าพอใจก็คือ กทม. ตัวเลขผลโพลออกมา 31 เขต น่าจะได้ตามผลโพลที่ออกมา 

ส่วนต่างจังหวัด นำหลายพื้นที่ในเหนือ อีสาน แต่ดูไม่ตรง แต่ก็เชื่อว่าเมื่อรวมกันน่าจะได้ ส.ส. ทะลุ 3 หลักแน่นอน โดย 2 พรรคใหญ่อันดับ 1 และ 2 จะเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก ซึ่งเป็นนิมิตหมายที่ดีว่า การเปลี่ยนแปลงมาถึงประเทศไทยแล้ว

"จุดยืนหลังจากนี้คือ พรรคลุงไม่อยู่ในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ของเรา พรรคร่วมรัฐบาลที่เป็นทหารจำแลง ไม่ว่าใครเป็นหัวหน้าพรรค ก็ไม่อยู่ในรัฐบาลเรา ส่วนเปลี่ยนอุดมการณ์ไปด้วยกันได้ไหม ต้องคุยว่าอุดมการณ์คืออะไร อย่างไรก็ตามไม่มีพรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคพลังประชารัฐอยู่ในนั้น"

นายพิธา กล่าวอีกว่า ตัวเลขที่อยู่ในนั้น พรรคก้าวไกล เพื่อไทย และพรรคฝ่ายค้านปัจจุบัน สามารถตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากได้แล้ว แต่ก็ก็ยังเป็นเพียงการอนุมาน เพราะนับคะแนนไปได้ไม่มาก แต่ย้ำว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านในปัจจุบันมีคำตอบให้ประชาชน และต้องยึดตามที่ได้พูดไว้

พิธาย้ำจุดยืนมีลุงไม่มีเรา มีเราไม่มีลุง

อย่างไรก็ดี เวลานี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับพรรคเพื่อไทยแต่อย่างใด ต้องรอมติพี่น้องประชาชนก่อน ซึ่งน่าจะประมาณ 4-5 ทุ่ม

นายพิธา กล่าวอีกว่า ยังไม่ได้ดูรายละเอียดผลคะแนน แต่ถ้าหากตัวเลขเป็นจริง ก็คิดถึงประชาชนเป็นที่ตั้ง ตำแหน่งรัฐมนตรีเป็นแค่สะพานในการผลักดันเรื่องนั้น จำนวนตัวเลขยังไม่ซีเรียส โดยสิ่งที่สัญญากับประชาชนต้องทำให้สำเร็จ แต่ต้องเรียกประชุมกรรมการบริหารพรรค ตอนนี้ยังเร็วเกินไป รอสักสี่ห้าทุ่ม ค่อยตัดสินใจ
 

"ก่อนเลือกตั้งอย่างไร หลังเลือกตั้งอย่างนั้น เอาผลประโยชน์เป็นที่ตั้งต่อไป สำหรับรายละเอียด ก็ต้องใช้กรรมการบริหารช่วยกัน ผมดีใจ และมีความสุขและสนุกกับงานที่ทำ การลงพื้นที่หาเสียง ทำให้ตนเป็นนักการเมืองที่ดีขึ้น ได้ใกล้ชิดประชาชน"

ตอนนี้ตนจะค่อย ๆ วางแผนไปทีละเรื่อง เป็นส่วนหนึ่งของการเมือง พอมีพลังใหม่ๆ เข้ามา เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง ก็ต้องเตรียมพร้อม โดยเฉพาะเกมการเมืองแบบเก่าๆ ด้วย ตอนนี้ประชาชนต้องการความเปลี่ยนแปลง แต่ยังไม่อยากอนุมานอะไรไปเรื่อยหน้า รอดูผลคะแนนอย่างเป็นทางการก่อน