(14 พ.ค. 66) นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ระบุว่า หากพรรคเพื่อไทยได้คะแนนนำเป็นอันดับ 1จะต่อสายถึงพรรคฝ่ายที่เป็นประชาธิปไตยด้วยกันก่อน เพราะร่วมสู้กันมากว่า 4 ปี แต่ทั้งนี้ไม่ได้มีการระบุลงไปว่าจะเป็น "พรรคก้าวไกล" หรือไม่ โดย "ผลการนับคะแนนเลือกตั้ง" ของ พรรคเพื่อไทย นำ พรรคก้าวไกล อยู่
ขณะที่ทาง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังนับคะแนนได้เพียง 5 ล้านคะแนน จาก 40 ล้านคะแนน หรือเพียงร้อยละ 10 เท่านั้น ล่าสุดยังไม่ได้มีการต่อสายพูดคุยกับทางพรรคก้าวไกล แต่พร้อมคุยกับทุกพรรคในฝั่งประชาธิปไตยก่อนเมื่อคะแนนเสียงมีความชัดเจน
ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยไม่ได้รับคะแนนแบบแลนด์สไลด์ตามเป้าหมายนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็ไม่เสียใจ แต่ในส่วนคะแนนในส่วนของ กทม. ยอมรับว่าผิดหวัง และแปลกใจถึงผลที่ออกมา
ขณะที่พรรคในฝั่งร่วมรัฐบาลเดิม ล่าสุดยังไม่มีพรรคใดประกาศความพ่ายแพ้ และอาจจะมีการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ในเรื่องนี้ นายเศรษฐา มองว่า เรื่องนี้ไม่น่ากังวล เพราะถือว่าการจัดตั้งรัฐบาลนั้นไม่มีความชอบธรรม
ด้านนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการโกงผลการเลือกตั้งที่เกิดจากการนับคะแนน ว่า เป็นสิ่งที่ทาง พรรคเพื่อไทย ห่วงใยมาตลอด จึงทำให้มีผู้เฝ้าเหตุการณ์คอยเฝ้าดู
ส่วนความกังวลเกี่ยวกับการนับคะแนนเลือกตั้ง อย่างจ.ฉะเชิงเทราเขต 3 ที่คะแนนการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรยังส่งมาไม่ถึง ทำให้ กกต. ตีเป็นบัตรเสียนั้น
เหตุของการยกเลิกผลการเลือกตั้งต้องมีเหตุผลเพียงพอ ผลการนับคะแนนบางจุดที่ไม่มีผลต่อคะแนนโดยรวมส่วนใหญ่แล้วจะไม่นำมาพิจารณา