ย้อนประวัติ"ปิยบุตร แสงกนกกุล"ผู้เห็นแย้งเอ็มโอยูจัดตั้งรัฐบาล 

เรามา ย้อนประวัติบุคคล ที่เป็นสีสันการเมืองไทยคนนี้อีกครั้ง "ปิยบุตร แสงกนกกุล" เลขาธิการคณะก้าวหน้า วัย 44 ปี อดีตนักวิชาการ รองศาสตราจารย์ ประจำภาควิชากฎหมายมหาชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้ร่วมก่อตั้งและอดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ที่ถูกยุบไปแล้ว แต่ทุกวันนี้เขายังคงมีบทบาท ออกมาแสดงท่าที-ความคิดเห็นทางการเมืองครั้งใด ก็เป็นข่าวได้ทุกครั้งไป บางคราวถึงกับได้คดีความเป็นของแถม  

ปิยบุตร แสงกนกกุล เกิดเมื่อวันที่ 23ตุลาคม พ.ศ.2522 ตรงกับวันปิยมหาราช จึงได้ชื่อว่า "ปิยบุตร" ชื่อเล่นว่า “ป๊อก” เป็นบุตรคนที่ 3 ในจำนวน 4 คน พื้นเพเป็นครอบครัวเชื้อสายจีนที่ฐานะไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากมาย แต่บิดา-มารดาให้ความสำคัญกับการศึกษา ตัวเขาเองเคยเล่าว่า “เกิดในครอบครัวคนชั้นกลางเชื้อสายจีนที่ไม่ได้ร่ำรวย แต่พ่อแม่ให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษาของลูกๆ เป็นอย่างมาก" เรื่องนี้ทำให้เขาตระหนักดีถึงการเข้าไม่ถึงทรัพยากรของคนจำนวนมาก และอยากเห็นสังคมที่เปิดโอกาสให้ผู้คนได้อย่างเท่าเทียม ไม่ว่าจะเกิดมาในครอบครัวแบบไหนก็ตาม

หลังจบการศึกษาระดับมัธยมจากโรงเรียนอัสสัมชัญ ปิยบุตรเข้าเรียนต่อปริญญาตรีที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้รับเกียรตินิยมอันดับสอง จากนั้นได้รับทุนจากรัฐบาลฝรั่งเศสให้ศึกษาต่อในระดับปริญญาโทและปริญญาเอก เขาคว้าปริญญาโท DEA(Master2)สาขากฎหมายมหาชนและกฎหมายสิ่งแวดล้อม คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัย Nantes ประเทศฝรั่งเศส เขียนวิทยานิพนธ์ เรื่อง "ข้อความคิดเรื่องผู้มีส่วนได้เสียในคดีปกครองสิ่งแวดล้อม"

ส่วนระดับปริญญาเอก เขาคนนี้คว้าเกียรตินิยมดีมาก โดยมติเอกฉันท์(Mention Très Honorable avec Félicitations)จากมหาวิทยาลัยตูลูส(Toulouse)ประเทศฝรั่งเศส โดยเขียนวิทยานิพนธ์ เรื่อง “ศาลปกครอง:การกำเนิดของสถาบัน”

เมื่อครั้งเดินทางกลับจากฝรั่งเศสในปี พ.ศ.2553 เป็นช่วงที่การเมืองในประเทศไทยตกอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งและมีความรุนแรงทางการเมือง(การสลายการชุมนุมที่แยกราชประสงค์)ปิยบุตรเข้าทำงานเป็นอาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สถานศึกษาดั้งเดิมของเขา ก่อนตัดสินใจลาออกด้วยตำแหน่งสุดท้ายคือ รองศาสตราจารย์ ประจำภาควิชากฎหมายมหาชน เมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ.2561 หลังรับราชการมาแล้วมากกว่า 16ปี เพื่อเดินหน้าเข้าสู่การเมืองเต็มตัว

 แสงสปอตไลท์สาดจับเมื่อนักวิชาการหนุ่มหัวก้าวหน้า จับมือกับนักธุรกิจหนุ่ม "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" ซึ่งร่วมอุดมการณ์เดียวกัน จัดตั้งพรรคอนาคตใหม่ พร้อมผู้จดจัดตั้งพรรคอีก 24 ราย ปิยบุตรเล่าเรื่องราวครั้งนั้นไว้ว่า

"การเข้าสู่การเมืองครั้งนี้ เป็นไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะนำพาประเทศออกจากวิกฤต กลับคืนสู่หนทางประชาธิปไตย ยุติทศวรรษที่สูญหายไป มุ่งหน้าสู่ทศวรรษแห่งการทวงคืนอนาคต"

ปิยบุตรได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ จากที่ประชุมใหญ่สามัญ ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 27พฤษภาคม พ.ศ.2561 อย่างไรก็ตาม พรรคของเขาประสบมรสุมทางการเมือง หลังศาลรัฐธรรมนูญมีสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ปิยบุตรแยกออกมาตั้งกลุ่มชื่อ"คณะก้าวหน้า"มีความเคลื่อนไหวด้านกิจกรรมการเมืองอย่างต่อเนื่อง 

ล่าสุด วานนี้ (22 พ.ค.) เขาออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับเนื้อหาของข้อตกลงร่วม หรือ เอ็มโอยู ที่ลงนามโดย 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลที่มีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ ว่า มีอยู่สองประเด็นในเอ็มโอยูที่เขาไม่เห็นด้วย คือการละเว้นไม่ระบุถึง ม.112 และการนิรโทษกรรม รวมทั้งการใช้ถ้อยคำในเอ็มโอยู ที่เขาเห็นว่าจะนำมาซึ่งปัญหาในอนาคต อย่างไรก็ตาม ต่อมาในการแสดงความเห็นครั้งที่สองในเรื่องเดียวกันนี้ ปิยบุตรปรับท่าทีอ่อนลง โดยกล่าวว่าไม่จำเป็นต้องใส่เรื่องการแก้ไขม.112 (ซึ่งเกี่ยวข้องกับสถาบันฯ) ลงในเอ็มโอยูก็ได้ และเท่าที่เห็นในขณะนี้ เขาเชื่อว่าเอ็มโอยูดังกล่าวมีความเหมาะสมแล้ว และมีความประนีประนอมมากพอ 

อย่างไรก็ตาม ตัวของปิยบุตรเองนั้น ในวันพุธที่ 24 พ.ค.นี้ อัยการมีนัดฟังคำสั่งว่าจะฟ้องหรือไม่ฟ้องตัวเขา หลังจากที่ก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวน สน.ดุสิต ได้ส่งสำนวนพร้อมความเห็นว่าสมควรสั่งฟ้องนายปิยบุตร แสงกนกกุล ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล เป็นผู้ต้องหาฐานกระทำความผิดมาตรา 112 กรณีนายเทพมนตรี ลิปพยอม ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต เมื่อวันที่ 17 พ.ย.2565 จากข้อความที่นายปิยบุตรโพสต์ข้อความลงสื่อออนไลน์ เกี่ยวกับเรื่องการปฏิรูปฯ ภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตย

ทั้งนี้ หลังจากการพิจารณาสำนวน อัยการได้นัดผู้ต้องหามาฟังคำสั่งคดีในวันพุธที่ 24 พ.ค.นี้ เวลา 10.00 น.