นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) บัญชีรายชื่อและกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว เปิดเผยความคืบหน้าในการรับรอง ส.ส. ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยมีข้อความระบุว่า
ได้รับแจ้งว่า กกต. จะรับรอง ส.ส. เป็นทางการ ภายในวันที่ 27 มิถุนายนนี้ เนื่องจากวันที่ 28 จะมี กกต. 1 คน ครบวาระต้องพ้นจากตำแหน่ง
เลยอยากให้ร่วมเซ็นชื่อให้ครบ หลังรับรอง ส.ส. คาดว่าทางสภา จะจัดให้ปฏิญาณตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 10 กรกฎาคม 2566
ส่วนความคืบหน้ากรณีการถือหุ้นไอทีวีของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แคนดิเคตนายกรัฐมนตรีนั้น ล่าสุด กกต.มีมติเป็นเอกฉันท์ 6 เสียง ไม่รับคำร้องกรณี นายพิธา มีคุณสมบัติลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ในการสมัครรับเลือกตั้ง เหตุการณ์ถือหุ้นไอทีวี 42,000 หุ้น แต่ให้รับเรื่องไว้พิจารณาเป็นความปรากฏ
โดยเห็นว่า คำร้องที่ได้ยื่นมาของทั้ง 3 คน เป็นคำร้องที่ยื่นเกินระยะเวลาที่จะสั่งรับคำร้องไว้พิจารณา ในกรณีที่ร้องว่าผู้สมัครรายใดขาดคุณสมบัติ หรือ มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. จึงเห็นควรพิจารณาสั่งไม่รับคำร้องไว้ตามระเบียบ
แต่เนื่องจากกรณีคำร้องดังกล่าวมีรายละเอียดเกี่ยวกับข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ และมีหลักฐานพอสมควร และมีข้อมูลเพียงพอที่จะสืบสวนไต่สวนต่อไปว่า นายพิธา เป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง และรู้อยู่แล้ว ว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากมีลักษณะต้องห้ามแต่ได้สมัครรับเลือกตั้ง อันเข้าข่ายเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนมาตรา 42(3) และมาตรา 151 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.
จึงเห็นควรพิจารณาสั่งให้ดำเนินการไต่สวนเป็นกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยหรือความปรากฎโดยคณะกรรมการสืบสวนไต่สวนที่ได้รับแต่งตั้ง จะดำเนินการไต่สวนตามขั้นตอนและระยะเวลาที่กำหนดไว้ในระเบียบต่อไป
ทั้งนี้เมื่อพลิกดูพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561 แก้ไขเพิ่มเติม 2566 ซึ่งระบุไว้ในมาตรา 151 ว่า ผู้ใดรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้สมัครรับเลือกตั้งหรือทำหนังสือยินยอมให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อเพื่อสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ
ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้น มีกำหนด 20 ปี
ในกรณีที่ผู้กระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นผู้ซึ่งได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้นั้นคืนเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่ได้รับมาเนื่องจากการดำรงตำแหน่งดังกล่าวให้แก่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรด้วย