นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ลุกอภิปรายคุณสมบัติของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นคนแรก
โดยกล่าวว่า ขอย้ำจุดยืนของพรรคภูมิใจไทยที่ได้แสดงจุดยืนอย่างเป็นทางการไปแล้วต่อการคัดค้านการแก้ไขกฎหมาย มาตรา 112 อย่างเต็มที่ และยืนยันไม่จัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย เเละยังเคารพมติของประชาชน
พร้อมระบุว่า แม้ว่า 8 พรรคร่วม จะลงนามความเข้าใจร่วมกันแล้ว แต่ก็ต้องไม่กระทบกับการปกครองรูปแบบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ในทางกลับกัน นายพิธา ผู้ที่ได้รับเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี กลับเป็นผู้ที่ยืนยันว่าจะแก้ไขม.112 อย่างชัดเจนและโปร่งใส
แต่ขอยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทยไม่เชื่อคำพูดของพิธา และถามกลับว่าทั้ง 7 พรรค ว่าอย่างไร เมื่อมีการขอเเก้ไขม.112 แม้ว่าในข้อตกลงไม่มีก็จริง
พร้อมฝากว่า คนไทย ไม่ได้มีแค่ 14 ล้านคน ขอประชาชนอย่าหลงระเริงคำว่า 14 ล้านเสียง หากจะมาอ้างแบบนี้ ประเทศไทยก็ลำบาก
ทั้งนี้เมื่อพิจารณาตามบทบัญญัติ ผู้ใดจะกล่าวหา"พระมหากษัตริย์"มิได้ ไม่ควรไปลดการคุ้มครอง ตนยืนยันเป็นพันธกิจที่จะคัดค้านอย่างที่สุด
"เมื่อเห็นพฤติกรรมแล้วไม่ยินยอมและเกิดคำถามว่าพรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกลเกิดมาเพื่อล้มล้างหรือ เกิดมาเพื่อแก้กฎหมายตรงนี้หรือ และถ้าแก้แล้วคนทั้งประเทศจะเป็นเทวดาหรือ ไม่ใช่แบบนั้น"
พร้อมกล่าวว่าหากพรรคก้าวไกล หลุดจากคำนี้ ตัดคำว่าว่า แก้ ม.112 พรรคภูมิใจจะโหวตให้เป็นนายกฯ ไม่ร่วมรัฐบาล
ทั้งนี้ ในการเลือกตั้งตนก็ลงพื้นที่หาเสียงเหมือนกัน เพราะกลัวจะเป็น ส.ส.สอบตก ไม่ได้มาจากการแต่งตั้ง แต่กลับถูกมองว่าไม่ใช่ฝ่ายประชาธิปไตย จึงถามว่าแล้วตนเป็นฝ่ายโจรหรือ "เป็นโจรก็ยอม แต่เป็นโจรที่รักชาติ โจรที่รักสถาบัน โจรที่รักบ้านเมืองนี้" และจะปกป้องสถาบันด้วยหัวใจด้วยเลือดเนื้อ