“พิธา”ประกาศหากก้าวไกลตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ พร้อมเปิดทาง ”เพื่อไทย”

15 ก.ค. 2566 | 08:56 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ก.ค. 2566 | 09:38 น.

“พิธา”โพสต์คลิปขอบคุณประชาชน-รัฐสภา 324 เสียงประกาศเปิดแคมเปญแก้ ม.272 ตัดอำนาจ ส.ว. ควบคู่สมรภูมิโหวตนายกฯ ลั่นถ้าสู้ แล้ว “ก้าวไกล”ตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ พร้อมเปิดทางให้เพื่อไทย

วันที่ 15 กรกฎาคม 2566 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เผยแพร่คลิปวิดีโอทางโซเชียลมีเดีย โดยกล่าวขอบคุณสมาชิกรัฐสภา 324 เสียง โดยเฉพาะ ส.ว. 13 ท่าน ที่โหวตเห็นชอบให้ตน เป็นนายกรัฐมนตรี 

“ผมทราบดีว่า ส.ว. หลายท่านเผชิญแรงกดดันมากมาย ที่รุนแรงหนักหนาจากการตัดสินใจครั้งนี้ ที่สำคัญที่สุด ขอขอบคุณทุกแรงใจ แรงสนับสนุนจากประชาชนทุกคน แต่ต้องขออภัยทุกท่านที่เรายังทำไม่สำเร็จ”

อย่างไรก็ตาม ในฐานะพรรคการเมืองที่ได้รับเสียงอันดับหนึ่งในการเลือกตั้ง พรรคก้าวไกลมีภารกิจที่ต้องรับผิดชอบต่อประชาชน คือจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ 

วันนี้เราพยายามทำทุกวิถีทางตามครรลองประชาธิปไตย เพื่อให้เสียงของประชาชนได้รับการตอบสนอง เจตนารมณ์ของประชาชนได้รับการเคารพ นี่คือการต่อสู้ร่วมกันไม่ใช่แค่ของพรรคก้าวไกลและ 14 ล้านเสียงที่เลือกพรรคก้าวไกล ไม่ใช่แค่การต่อสู้ของ 8 พรรค ตัวแทน 27 ล้านเสียง 

แต่คือการต่อสู้ของคนไทยทั้งประเทศ เพื่อยืนยันว่าเสียงของประชาชนต้องเป็นเสียงที่กำหนดอนาคตของประเทศนี้

“ขอให้เราเดินด้วยกันต่อไป ตั้งรัฐบาลของประชาชนให้ได้ แต่เวลาของเราเหลือไม่มาก เพราะผมทราบดีว่าประเทศไทยเดินต่อไปโดยไม่มีรัฐบาลของประชาชนแบบนี้ได้อีกไม่นาน ภายใต้เวลาอันจำกัดนี้ เราเหลือโอกาสอีกไม่กี่ครั้ง ที่ต้องสู้ร่วมกัน ใน 2 สมรภูมิ เพื่อนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลตามมติมหาชนได้สำเร็จ

สมรภูมิที่หนึ่ง ที่จะเกิดขึ้นในอีก 4 วันข้างหน้า คือการโหวตนายกรัฐมนตรีในวันที่ 19 กรกฎาคม 2566 และสมรภูมิที่สอง ก็คือการยื่นเสนอแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 272 เพื่อตัดอำนาจ ส.ว. ในการเลือกนายกถาวรตลอดกาล ทั้งสองสมรภูมิจะไม่มีวันชนะได้ หากเราไม่สามารถเปลี่ยนใจ ส.ว. ให้อยู่ข้างประชาชน

ผมจึงขอให้ประชาชนทุกคน ร่วมทำภารกิจกับผมในสองสมรภูมินี้ โดยการ ส่งสารถึง ส.ว. ในทุกวิถีทาง ทุกวิธีการที่ท่านนึกออก ย้ำ ขอเป็นวิธีการสร้างสรรค์ ช่วยกันเชิญชวนให้ ส.ว. โหวตนายกตามมติประชาชน หรือ โหวตยกเลิกมาตรา 272 เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชน”

หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า หากพวกเราทำเต็มที่ใน 2 สมรภูมินี้แล้วเป็นที่ชัดเจนว่าพรรคก้าวไกลไม่มีโอกาสเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้จริงๆ ตนพร้อมเปิดโอกาสให้ประเทศไทย โดยเปิดทางให้พรรคอันดับสอง คือพรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลของพรรคร่วมรัฐบาล 8 พรรค ภายใต้ MOU ที่ทำร่วมกันไว้ และผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกลทุกคนพร้อมสนับสนุนแคนดิเดทนายกของพรรคเพื่อไทย

หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวทิ้งท้ายในคลิปวิดีโอว่า “แต่กว่าจะถึงวันนั้น เราไม่ยอมแพ้แน่นอน และขอทุกคนมาร่วมกันต่อสู้เพื่อให้ได้จนถึงที่สุด ผมคนเดียวหรือพรรคก้าวไกลเพียงพรรคเดียวไม่อาจเปลี่ยนใจ ส.ว. และนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลของประชาชนได้จริง 

จึงต้องขอแรงพลังจากทุกท่านร่วมทำภารกิจเพื่อให้เราสามารถจัดตั้งรัฐบาลของประชาชนให้สำเร็จ อนาคตของพรรคก้าวไกลในการจัดตั้งรัฐบาลอยู่ในมือของพวกท่านทุกคนแล้ว มาช่วยกันส่งสารเพื่อเปลี่ยนใจ ส.ว. ด้วยกัน ขอบคุณครับ”