พรรคเพื่อไทยเรียกประชุมพรรคเมื่อวันที่ 18 ก.ค. ที่ผ่านมา เพื่อหารือและซักซ้อมก่อนโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ในวันที่ 19 ก.ค. 2566 โดยการประชุมดังกล่าวมีกรรมการบริหารพรรค แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีทั้ง 3 คน และ ส.ส. เข้าร่วมประชุม
แหล่งข่าวพรรคเพื่อไทย เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า การประชุมพรรคเพื่อไทยหารือแนวทางในการโหวตเลือกนายกฯ โดยมีหารือ 2 แนวทาง คือ
1. หารือว่าที่มีการเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นครั้งที่สอง ต้องรอดูว่าที่ประชุมร่วมรัฐสภาจะมีความเห็นว่าเสนอชื่อรอบที่สองได้อีกหรือไม่
"ซึ่งพรรคประเมินว่าจะต้องมีการโหวตในประเด็นนี้ มีความเสี่ยงอาจจะไม่ผ่าน เพราะเมื่อนับเสียงส.ว. กับขั้วพรรคร่วมรัฐบาลเดิมอาจจะไม่ผ่าน แต่ถ้าผ่านมีสิทธิ์โหวตอีกรอบ แต่ยืนยันว่าทางพรรคเพื่อไทยก็ยังยกมือโหวตให้นายพิธาเหมือนเดิม และดูว่าคะแนนเสียงจะผ่านหรือไม่ ได้เท่าไร แต่ถ้าได้ก็ได้ไป"
2. กรณีที่ที่ประชุมร่วมรัฐสภามีมติเห็นว่าถ้าเสนอชื่อพิธาโหวตรอบที่สองไม่ได้แล้ว พรรคเพื่อไทยมีการหารือโดยพูดคุยกันอย่างกว้างขวาง แต่ก็อาจจะต้องดูว่าจะมีการเสนอชื่อนายกฯคนอื่นแทนได้เลยหรือไม่ หรืออาจให้เลื่อนไปโหวตวันอื่นคือวันที่ 26 ก.ค.
"พรรคเองมอบอำนาจให้นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอชื่อ หากในกรณีต้องเสนอให้ที่ประชุมสภาโหวตนายกฯทันที ที่จะเสนอนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ในพรรคก็มีการพูดคุยในพรรคว่า บางคนมั่นใจว่าจะเสนอผ่าน แต่บางส่วนเสนอว่าถ้าชื่อนายเศรษฐา และเรายังอยู่ใน 8 พรรคร่วมเดิมชื่อนายเศรษฐาจะไม่ผ่าน"
แหล่งข่าว เล่าด้วยว่า ขณะที่ในการประชุมครั้งนี้ นายเศรษฐา บอกกับที่ประชุมพรรคเพื่อไทยว่า เขาพร้อมที่จะเป็นนายกฯ และที่เข้ามาทำงานในพรรคเพื่อไทยที่ผ่านมา รู้ตัวดีว่ามีทั้งคนชอบและไม่ชอบ ซึ่งก็พร้อมที่จะปรับปรุงตัวและจะทำให้ดีที่สุด
ด้าน นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังการประชุม
โดยนายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบกับการเสนอชื่อหัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในวันพรุ่งนี้ (19 ก.ค.) โดยมอบหมายให้ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายสุทิน คลังแสง เป็นผู้เสนอ
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติเห็นค้าน หากมีสมาชิกรัฐสภา เสนอญัตติมาพิจารณา และให้มีการลงคะแนน ว่า ญัตติการเสนอชื่อนายพิธา เป็นญัตติซ้ำ และต้องตกไปเพราะเห็นว่าการเลือกนายกรัฐมนตรี เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญมาตรา 272 และ ส.ส. ทั้ง 141 เสียงของพรรค ยินดีที่จะขานชื่อ นายพิธา เป็นบุคคลที่สมควรเป็นนายกรัฐมนตรีต่อที่ประชุม
แต่หากที่ประชุมมีมติ ว่า ญัตติดังกล่าวต้องตกไป ไม่สามารถโหวตต่อได้ ประธานรัฐสภาจะปิดประชุม เพื่อไปนัดหมายวันโหวตนายกรัฐมนตรีในครั้งต่อไป โดยหลังจากนี้จะต้องรอดูพรรคแกนนำพรรคอันดับ 1 ว่าจะดำเนินการอย่างไร เช่น หากแถลงยินดีให้พรรคอันดับ 2 เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล พรรคเพื่อไทยก็พร้อมที่จะดำเนินการ
แต่ขณะนี้ยังไม่ได้เตรียมการอะไร ขอให้รอมติในวันพรุ่งนี้ว่าจะออกมาอย่างไรก่อน และวันนี้ในแจ้งต่อที่ประชุมในวันนี้ให้รับทราบ แต่ไม่ได้ลงลึกในรายละเอียด ยอมรับ ในชั้นเตรียมการบางสิ่ง บางอย่างเป็นการภายในก็ได้ปรึกษาหารือกันไว้เท่านั้น แต่ยังไม่มีมติออกมา
ส่วนกรณีที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพื่อไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ให้สัมภาษณ์ว่าจะเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีหากพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลนั้น เป็นความเห็นส่วนบุคคลของสมาชิก ซึ่งกรรมการบริหารพรรคยังไม่ได้เตรียมการเรื่องนี้ เพราะจะต้องรอมติในวันพรุ่งนี้ และมติของพรรคก้าวไกลที่จะแถลงการณ์ออกมา พร้อมเชื่อว่าจะไม่เกิดความเสียหาย แต่ในทางมารยาทไม่น่าจะดี
“อุ๊งอิ๊ง” หนุน “เศรษฐา” เหมาะนั่งนายกฯ หากพิธาชวดโหวตรอบ 2
วันที่ 18 กรกฎาคม 2566 ที่พรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพื่อไทย หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายพิธาระบุว่าถ้าโหวตรอบสองไม่ผ่าน จะเปิดทางให้พรรคเพื่อไทยเสนอแคนดิเดตนายกฯ แทนว่า นายพิธาน่าจะพูดไปตามระบบที่เราคุยกันไว้อยู่แล้ว เอาให้เต็มที่ก่อน พรรคเพื่อไทยสนับสนุนนายพิธาอยู่แล้ว
ส่วนถ้าไม่เสนอชื่อนายพิธาซ้ำได้ เนื่องจากติดข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อที่ 41 พรรคเพื่อไทยจะเสนอแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยเลยหรือไม่นั้น น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ที่เราเตรียมกันมา เตรียมเรื่องการโหวตให้นายพิธา ถ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร คณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยต้องคุยกันก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้คุยกันภายในหรือยังว่าแคนดิเดตนายกฯ ที่จะเสนอคือใคร น.ส.แพทองธารกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยก็จะเสนอนายเศรษฐา ทวีสิน อันนี้เป็นที่ชัดเจน เราทำไปทีละขั้น
ส่วน ส.ว.มองว่าถ้ามีพรรคเพื่อไทย ก็ต้องไม่มีพรรคก้าวไกลนั้น น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ขอให้เป็นเรื่อง 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลคุยกัน รวมถึงกรรมการบริหารพรรคคุยกันดีกว่า เพราะตนไม่อยู่ในหน้าที่ที่จะตอบ แต่อยากให้สื่อช่วยนิดหนึ่งให้ไปทีละสเต็ป ไม่เช่นนั้นจะเกิดความวุ่นวาย และเกิดความไม่สบายใจของประชาชน
เมื่อถามว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล น.ส.แพทองธารจะเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ น.ส.แพทองธารย้อนตอบว่า เพิ่งพูดจบว่า step by step จะให้เป็นรัฐมนตรีแล้วเหรอ
“ยังไม่ได้คิดไว้ในส่วนของตัวเอง ตอนนี้คิดว่าอย่างที่เคยบอกกับประชาชนแล้วตอนที่เราหาเสียง ไม่ว่าอย่างไรก็ตามแคนดิเดตนายกฯ ทั้ง 3 คนช่วยกันทำงาน ทุกวันนี้ที่เราจะเสนอคุณพิธาเป็นนายกฯ เรา 3 คนก็ยังทำงานกันเหมือนเดิม พร้อมกับคนอื่น ๆ ในพรรคด้วย ช่วยกัน ไม่ว่าอยู่ในตำแหน่งใด ๆ ช่วยกันได้แน่นอน”
เมื่อถามว่า หาก ส.ว.ไม่เอาพรรคก้าวไกลแล้วเป็นไปได้หรือไม่ว่ารัฐบาลเพื่อไทยจะไม่มีพรรคก้าวไกล น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ขอให้คณะกรรมการบริหารพรรคคุยกันก่อน ยังไม่มีคำตอบแบบนั้น ยังไม่มี scenario แบบนั้น