การประชุมร่วมกันของรัฐสภาเพื่อโหวตนายกรัฐมนตรี รอบที่2 จะมีขึ้นในวันที่19 กรกฎาคม 2566 เวลา 09.30 น. โดยมติ 8พรรคร่วมรัฐบาลยังคงยืนยันที่จะเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกฯ เข้ารับการโหวตอีกครั้ง
ฐานเศรษฐกิจ ได้สอบถามทิศทางของพรรคเพื่อไทย จากนายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมพรรคในวันที่18 กรกฎาคม 2566 โดยนายอดิศร ยืนยันถึงมติพรรคเพื่อไทย 141 เสียง ยังคงโหวตสนับสนุนให้นายพิธาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
โดยในการโหวตวันที่ 19 ก.ค. ทางพรรคเพื่อไทยเห็นว่าวุฒิสมาชิกควรเปิดทางให้ได้มีการโหวตชื่อคุณพิธาอีกครั้ง โดยไม่ควรหยิบยกเรื่องระเบียบข้อบังคับการประชุม มาเป็นเครื่องสกัดขัดขวางให้เกิดข้อครหา
แต่หากได้มีการโหวตในครั้งที่2แล้ว ปรากฏว่าคุณพิธายังได้เสียงสนับสนุนไม่เพียงพอ ทางพรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคอันดับ2 ก็ต้องก็ต้องมาดำเนินการจัดตั้งรัฐบาลเป็นเรื่องธรรมดา หากพรรคอันดับ1 ไม่สามารถดำเนินการได้สำเร็จ
ซึ่งเป็นไปตามที่คุณพิธาเองเคยให้สัมภาษณ์ไว้ แต่ในขณะนี้ยังไม่อยากพูดถึงให้เป็นการบั่นทอนจิตใจ เพราะนายพิธายังมีความชอบธรรมที่จะได้จัดตั้งรัฐบาลอยู่
ต่อคำถามที่ว่าหากการโหวตนายกฯ ในครั้งที่2 ไม่ผ่าน จะต้องดำเนินการโหวตนายกฯครั้งที่3 ในช่วงเวลาใด นายอดิศรกล่าวว่า ควรเว้นไว้สักหนึ่งการประชุมเพื่อทบทวนสิ่งที่ผ่านมา ไม่ควรมีการเสนอชื่อคนใหม่ทันที ควรพัก1อาทิตย์ ก่อนที่จะเดินหน้าต่อไป
โดยรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยมีอยู่ 3คน นายเศรษฐา ถือว่าเป็นบุคคลที่มีความรู้เรื่องเศรษฐกิจ และเข้าใจสถานการณ์ในปัจจุบัน ซึ่งตรงกับปัญหาของประชาชนในขณะนี้ ดังนั้นหากจะเปิดโอกาสให้บุคคลของพรรคเพื่อไทย เข้าดำรงตำแหน่งนายกฯ ก็เห็นควรเป็นนายเศรษฐา เนื่องจากมีความชำนาญด้านเศรษฐกิจ เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไป
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยไม่มีความกังวลเรื่องรัฐบาลเสียงข้างน้อย และเรียกร้องให้บรรยากาศการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อโหวตนายกฯในวันที่ 19 ก.ค. นี้ไม่ควรมีการตีรวนเกิดขึ้น และเชื่อมั่นว่าจะสามารถเสนอชื่อนายพิธาเพื่อเข้าสู่การโหวตได้ตามปกติ