นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล แถลงความคืบหน้าการเจรจาตั้งรัฐบาลว่า พรรคก้าวไกล จะเปิดโอกาสให้พรรคอันดับที่สองคือ พรรคเพื่อไทย เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลกับอีก 8 พรรคร่วม ซึ่งในการประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 27 กรกฎาคม 2566 นี้ พรรคก้าวไกล จะเป็นผู้เสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยต่อที่ประชุมรัฐสภาครั้งหน้า
นายชัยธวัช ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับพรรคเพื่อไทย และหลังจากนี้ทางพรคเพื่อไทยคงคุยแนวทางการจัดตั้งรัฐบาลหลังจากนี้ ส่วนในการหารือกับพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมานั้น ยังไม่ได้คุยรายละเอียดก็อยู่ที่พรรคเพื่อไทยว่าจะเสนอใครเป็นแคนดิเดตนายกฯ
ทั้งนี้ยังบอกด้วยว่า แม้วันนี้จะผลักดันนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกฯ ไม่ได้ แต่พรรคก้าวไกลยังมีภารกิจสำคัญที่เหลืออยู่คือการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ เพื่อหวังยุติการสืบทอดอำนาจของขั้วรัฐบาลเดิมให้ได้ และจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจัดตั้งรัฐบาลให้ได้โดยเร็ว
ส่วนนโยบายการแก้ไข ม.112 จะส่งผลต่อการจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยอีกหรือไม่นั้น เลขาธิการพรรคก้าวไกล ยอมรับว่า ตอนนี้ยังไม่ได้คุยกันเรื่องนี้ เพราะตอนนี้ต้องชัดเจนเรื่องมารยาท หลังจากพรรคก้าวไกลได้เปิดให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลแล้ว ซึ่งการหารือและเจรจาหลังจากนี้เป็นบทบาทหลักของพรรคเพื่อไทย
ส่วนกรณีกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยอาจจะดึงพรรคพลังประชารัฐร่วมรัฐบาลด้วยนั้น นายชัยธวัช ระบุว่า ยังไม่อยากให้สรุปแทนพรรคเพื่อไทย เพราะตอนนี้มีกระแสข่าวออกมามาก แต่การพูดคุยอย่างเป็นทางการยังไม่ได้เกิดขึ้น
ทั้งนี้หากการประชุมรัฐสภาครั้งต่อไป แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยเสนอแล้วไม่ผ่านความเห็นชอบของสภาฯ จะถือว่าการเสนอแคนดิเดตคนนั้นจบลงเลยหรือไม่ ชัยธวัช ยอมรับว่า จุดยืนของพรรคก้าวไกลไม่ยอมรับการตีความข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อที่ 41 เรายืนยันว่ามติของรัฐสภาในครั้งที่แล้วขัดต่อรัฐธรรมนูญ
จากนั้นเมื่อถูกถามต่อว่า คิดเห็นอย่างไรต่อบทบาทการทำหน้าที่ของ วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาในการประชุมรัฐสภาครั้งที่ผ่านมา ชัยธวัชกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นข้อถกเถียงกันในสมาชิกรัฐสภา เราเห็นว่าประธานสภาสามารถวินิจฉัยได้ แต่เมื่อมีความเห็นแตกต่างกันเยอะ ประธานสภาอาจเห็นว่าควรให้สมาชิกได้อภิปรายถกเถียงกันอย่างเต็มที่และมีมติร่วมกัน อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ผ่านไปแล้ว หวังว่ารัฐสภาชุดนี้จะไม่มีเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นอีก
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่เกี่ยวกับความเชื่อมั่นของประชาชนที่เลือกพรรคก้าวไกล ที่อาจมองว่าพรรคถอย ชัยธวัชกล่าวว่า ไม่กังวล ตอนนี้ไม่ใช่แค่ผู้ที่ลงคะแนนเสียงให้พรรคก้าวไกล แต่ตนกำลังพูดว่าผู้ลงคะแนนเสียงส่วนใหญ่ที่ให้พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล มีส่วนสำคัญ เชื่อว่าคนที่เลือกทั้งพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย แม้วันนี้พรรคก้าวไกลจะเป็นไปได้ยากในการเป็นนายกฯ แต่ประชาชนทั้งสองส่วนก็ยังอยากเห็นรัฐบาลที่พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ