สรุปจุดยืน "ภท.-ชพก.-รทสช" ร่วมจัดตั้งรัฐบาลเพื่อไทย

จังหวะการเมืองไทยตลอดเดือนนี้ยังต้องจับตากันต่อเนื่องโดยเฉพาะประเด็นการจัดตั้งรัฐบาลที่ล่าสุดทางพรรคเพื่อไทยซึ่งได้คะแนนเลือกตั้งมาเป็นอันดับที่ 2 รองจากพรรคก้าวไกล เป็นแกนนำโดยในวันนี้เพื่อไทยเร่งเดินหน้าหารือกับพรรคการเมืองต่าง ๆ เพื่อรวบรวมจำนวนเสียงให้ได้ 375 เสียง สำหรับการโหวตเลือกแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวก่อนหน้านี้ว่า นอกจากจะเดินหน้าหาเสียงสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภา (สว.) แล้วจะทำควบคู่กันไปคือการหาเสียงสนับสนุนจากพรรคการเมืองเพื่อให้ได้จำนวนเสียงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) เพื่อเป็นเสียงข้างมากในการจัดตั้งรัฐบาลด้วย

ความคืบหน้าล่าสุด (22 กรกฎาคม 2566) เพื่อไทยได้หน้าเร่งหารือกับแกนนำพรรคการเมืองรวดเดียว 3 พรรค ซึ่งประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย(ภท.), พรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) และพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)

เงื่อนไขพรรคภูมิใจไทย

• พร้อมให้ความร่วมมือกับพรรคเพื่อไทยในฐานะที่เป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
• ภูมิใจไทยไม่สามารถทำงานร่วมกับพรรคก้าวไกลได้เนื่องจากวิธีการทำงานและความคิดที่แตกต่างกัน 

เงื่อนไขพรรคชาติพัฒนากล้า

1.พรรคชาติพัฒนากล้า จะสนับสนุนให้เกิดรัฐบาลเสียงข้างมาก ไม่เอารัฐบาลเสียงข้างน้อย เพื่อสร้างเสถียรภาพทางการเมือง 

2.พรรคสนับสนุนพรรคที่มีเสียงอันดับหนึ่งในการริเริ่มเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล และหากพรรคที่มีเสียงเป็นอันดับหนึ่งไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ จะสนับสนุนพรรคลำดับรองลงมาให้จัดตั้งรัฐบาลเพื่อให้เป็นไปตามเสียงของประชาชน 

3.อยากให้เร่งรัดในการแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจต่าง ๆที่ ประชาชนมีความเดือดร้อนอย่างมากโดยเฉพาะสินค้าราคาแพง 

4.พรรคชาติพัฒนากล้ามีจุดยืนชัดเจนเกี่ยวกับ ม.112 โดยขอ "คงไว้" และ "ไม่มีการแก้ไข" แต่อย่างใด

เงื่อนไขพรรครวมไทยสร้างชาติ

พรรครวมไทยสร้างชาติไม่สามารถทำงานร่วมกับพรรคก้าวไกลได้ ไม่ใช่แค่นโยบายแก้ม. 112 แต่มีเรื่องอื่นๆ ด้วย 

สรุปเงื่อนไขสำคัญของทั้ง 3 พรรคการเมือง คือ ไม่ขอร่วมจัดตั้งรัฐบาลหากยังมีพรรคก้าวไกลร่วมด้วย รวมถึงยืนยันเงื่อนไขคัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 112 ที่เป็นนโยบายของพรรคก้าวไกลอีกด้วย

สำหรับพรรคภูมิใจไทยนั้น มี สส. จำนวน 71 ที่นั่ง พรรคชาติพัฒนากล้า จำนวน 2 คน และพรรครวมไทยสร้างชาติ จำนวน 36 คน รวมเป็น 109 คน เมื่อรวมกับจำนวนเสียงของพรรคเพื่อไทยและจากอีก 6 พรรคร่วมรัฐบาล จากจำนวน 312 เสียง เมื่อตัดจำนวน สส.พรรคก้าวไกล 151 คนออกไปจะเหลือ 161 เสียง บวกกับ 109 เสียงจาก 3 พรรคที่ได้หารือกันในวันนี้จะได้ 270 เสียง ยังขาดอีก 105 เสียง จึงจะครบ 375 เสียง

พรรคเพื่อไทยยังต้องการจำนวนเสียงสนับสนุนอีกมากทั้งจาก สส. และ สว. เพื่อให้บรรลุตามเป้าหมาย 375 เสียง

มีรายงานล่าสุดว่า ในวันที่ 23 กรกฎาคม เวลา 14.00 น. ทางพรรคเพื่อไทยได้เชิญพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) โดยนายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชทพ. จะเดินทางเข้าหารือที่พรรคเพื่อไทย (พท.) เพื่อพูดคุยถึงแนวทางจัดตั้งรัฐบาล

ยังมีรายงานด้วยว่า ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นั้นพรรคเพื่อไทยอยู่ระหว่างการประสานงานกำหนดเข้ามายังพรรคว่าจะเป็นวันใด โดยเบื้องต้นมีรายงานว่า แกนนำพรรคพปชร.ที่จะเข้าร่วมหารือกันในวันนั้น ประกอบด้วย นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประรัฐ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานประสานงานส.ส.พรรค และนายไผ่ ลิงค์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพปชร.