หลังจากเมื่อวานนี้ (10ก.พ.63) ทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการของ Holland America Line ของ บริษัท ฮอลแลนด์ อเมริกา ซึ่งเป็นเจ้าของ เรือ เวสเตอร์ดัม (Westerdam) เรือสำราญขนาดใหญ่ เผยแพร่ข่าว โดยมีสื่อใหญ่ CNN หยิบไปตีข่าว ว่า เตรียมนำเรือพร้อมผู้โดยสารและลูกเรือกว่า 2,200 คน มาเทียบท่าที่แหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ในวันพฤหัสบดีที่ 13 ก.พ.นี้ หลังต้องลอยลำกลางทะเล เพราะถูกปฏิเสธเข้าเทียบท่าใน 3 ประเทศ/ดินแดน โดยอ้างยืนยันว่าไม่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แม้แต่รายเดียว ผู้โดยสารจะลงเรือที่แหลมฉบัง จากนั้น เดินทางเข้าไปกรุงเทพ เพื่อขึ้นเครื่องบินกลับบ้านต่อไป
ทันทีที่ข่าวนี้เผยแพร่ ใน “ฐานเศรษฐกิจ” และสื่อของไทย มีประชาชนมาแสดงความคิดเห็นค้านเป็นส่วนใหญ่ ทำให้เสี่ยหนู “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรี ที่เป็นทั้งรมว.สาธารณสุข และกำกับดูแลกระทรวงคมนาคม ถึงกับต้องสั่งการผ่านทางเฟซบุกทันทีว่าไม่อนุญาตให้เรือสำราญนี้เข้าเทียบแหลมฉบัง ถัดจากนั้นเรียกได้ว่าทุกคนในรัฐบาลออกมายืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่อนุญาตให้เรือลำนี้เข้าเทียบท่าได้
อย่างเช่น “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี” ตอบสั้นๆว่า “ ก็ไม่ให้เข้าตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข บอกก่อนหน้านี้“
ส่วน นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม ในฐานะกำกับดูแลกรมเจ้าท่า บอกว่า ทางตัวแทนเรือดังกล่าวได้มีการประสานงานมายัง กรมเจ้าท่า เมื่อวานนี้ (10ก.พ.) ที่ผ่านมาจริง เพื่อขออนุญาตที่จะเข้ามาจอดเทียบท่าที่ท่าเรือแหลมฉบัง ดังนั้นทางกรมเจ้าท่า และ การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) โดยท่าเรือแหลมฉบัง ได้มีการประสานงานและประชุมร่วมกัน รวมถึงได้มีการประสานงานประชุมทางโทรศัพท์กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เรียบร้อยแล้ว
“ยืนยันว่าจะไม่ให้เรือดังกล่าวเข้ามาเทียบท่าเรือในเขตประเทศไทยอย่างแน่นอน ขณะเดียวกันได้แจ้งไปยังผู้ประสานงานของเรือดังกล่าวว่าประเทศไทยไม่อนุญาตให้เรือดังกล่าวเข้ามาเทียบท่าแน่นอน”
รมช.คมนาคม บอกอีกว่า เพื่อให้การควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโรคสามารถดำเนินการได้อย่างเคร่งครัด เนื่องจากเมื่อมีกระแสข่าวผ่านสื่อโชเชียลมีเดียทำให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนก และการเผยแพร่ข่าวดังกล่าวว่าเรือจะเข้ามาเทียบท่าที่ท่าเรือแหลมฉบังก็เกิดจากบริษัทเรือ และ ตัวแทนที่มาประสานงานโพสต์ข้อความ ประชาสัมพันธ์ ออกไป ในขณะที่ทางกรมเจ้าท่าที่มีหน้าที่ในการออกใบอนุญาตไม่ได้ มีการอนุญาตและตอบปฏิเสธออกไป
“ถ้าเราอนุญาตให้เข้ามาก็จะสร้างความไม่สบายใจให้กับพี่น้องประชาชนชาวไทยหลายคน ยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตัดสินใจลำบาก และละเอียดอ่อน ถ้าเรา มองในแง่ของมนุษยธรรม ใจเขาใจเรา ถ้าเป็นเรือของไทย ไปเจอเหตุการณ์เช่นนี้บ้าง เราก็ รู้สึกลำบากใจ แต่ สุดท้ายก็ต้องตัดสินใจ เพื่อ รักษาผลประโยชน์ประโยชน์ของประชาชนและความมั่นคงของประเทศจึงจำเป็นต้องตัดสินใจเช่นนี้”
ส่วนบรรยากาศในการประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันนี้ นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมครม.มีการหารือกรณีทีมีกระแสข่าวว่าเรือสำราญเวสเตอร์ดัม จะเทียบท่าที่แหลมฉบังเช่นเดียวกัน โดยอธิบดีกรมเจ้าท่ารายงานว่าไม่เคยมีการติดต่อเพื่อขอเทียบท่าเข้ามาอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด
“อธิบดีกรมเจ้าท่าก็ออกมาชี้แจงให้ข่าวว่าจริงแล้วเรือลำนี้ไม่ได้ขออนุญาตจะมาจอดในไทยตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่เหตุที่ข่าวออกมาอาจจะเป็นเพราะทางเรือได้ติดต่อเอเจนซี่ที่เป็นคนไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย แต่เอเจนซี่ก็ไม่ได้ติดต่อมาที่กรมเจ้าท่า แต่เมื่อมีการติดต่อกับทางเอเจนซี่ ทางเรือก็จึงนำข้อมูลไปลงในเว็บไซต์ของเรือ ทางโซเชียลมีเดียเห็นจึงนำมาเป็นกระแสอธิบดีกรมเจ้าท่ายืนยันว่าไม่ได้มีกระบวนการร้องขออนุญาตนำเรือเข้ามาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว”
นอกจากนี้ในที่ประชุมครม.มีการพูดถึงเรื่องนี้เช่นกัน ซึ่งพลเอกประยุทธ์ บอกว่าต่อให้มีการขออนุญาตเข้ามาจริงก็ชัดเจนว่าไม่อนุญาตเข้ามาจอด แต่จะช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมอื่นๆถ้ามีการร้องรอเข้ามา อย่างเช่น เรือ ยารักษาโรค น้ำมันสำหรับเรือ อาหาร ทางฝ่ายไทยก็พร้อมช่วยเหลือ”