นายโซคอร์โร เอสคาแลนเต ผู้ประสานงานประจำภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตกของ องค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่า ประเทศที่เข้าร่วม โครงการ COVAX ของ WHO ซึ่งเป็นโครงการกระจาย วัคซีนต้านโควิด-19 ให้แก่ประเทศสมาชิก จะยังไม่สามารถได้รับวัคซีนดังกล่าวเป็นเวลาอีกกว่า 1 ปีนับจากขณะนี้ เมื่อพิจารณาจากความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนในปัจจุบัน
ดังนั้น จึงส่งผลให้มีการเลื่อนเป้าหมายกำหนดเวลาสำหรับโครงการ COVAX ในการรับวัคซีนจำนวน 2 พันล้านโดสออกไปเป็นปลายปี 2564
นายเอสคาแลนเตกล่าวว่า ปัจจุบันมีวัคซีนต้านโควิด-19 จำนวน 193 ตัวที่กำลังอยู่ในช่วงการทดลอง ขณะที่มีวัคซีนเพียง 10 ตัวที่อยู่ในช่วงการทดลองในระยะที่ 3 ซึ่งเป็นการทดลองระยะสุดท้าย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัสเซียเฉลยเบื้องหลัง พัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ได้ไว
ทุ่ม400ล้าน เร่งผลิต "วัคซีนโควิด"
จีนเริ่มทดลองวัคซีนโควิด-19 เฟส 3 ในต่างประเทศ
WHO คาดวัคซีนโควิด-19 ต้องรอถึงกลางปีหน้า
อย่างไรก็ดี นายเอสคาแลนเตกล่าวว่า ขณะนี้จีนและรัสเซียได้ทำการทดลองวัคซีนต้านโควิด-19 ของตนเช่นกัน ซึ่งหากประสบความสำเร็จก็อาจจะทำให้มีวัคซีนเพื่อการพาณิชย์ออกสู่ตลาดในเวลาที่เร็วขึ้น
ทั้งนี้ โครงการ COVAX หรือ Covid-19 Vaccines Global Access Facility เป็นโครงการความร่วมมือนานาชาติ ที่นำโดยองค์การอนามัยโลก (WHO) เพื่อพัฒนา ผลิต และแจกจ่ายวัคซีนโควิด-19 อย่างเท่าเทียมแก่ประเทศต่าง ๆทั่วโลก และตอนนี้มีกว่า 170 ประเทศที่เข้าร่วมโครงการนี้ แต่ก็มีบางประเทศ รวมทั้งสหรัฐอเมริกา ที่ตัดสินใจไม่เข้าร่วมโครงการ COVAX โดยนายจัดด์ เดียร์ โฆษกทำเนียบขาว ออกมาแถลงว่า สหรัฐฯ จะไม่เข้าร่วมโครงการนี้ เนื่องจากไม่ต้องการทำงานร่วมกับ WHO ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ มองว่าเป็นองค์กรระหว่างประเทศที่เข้าข้างจีน และยึดจีนเป็นศูนย์กลางในการรับมือสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข มองว่าการตัดสินใจของรัฐบาลสหรัฐที่ไม่เข้าร่วมโครงการ COVAX หมายความว่าสหรัฐกำลังเดิมพันความเสี่ยงกับการพัฒนาวัคซีนของตนเอง และสนับสนุนให้ประเทศอื่น ๆ ทำเช่นเดียวกัน ซึ่งนอกจากจะเป็นการตัดโอกาสของตนเองในการได้วัคซีนจากผู้พัฒนาชาติอื่น ๆ แล้ว ยังอาจส่งผลให้ราคาของวัคซีนแต่ละโดสนั้นเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ