ขณะที่เหลืออีกเพียงไม่กี่รัฐเท่านั้น ที่ยังนับ ผลคะแนนการเลือกตั้งสหรัฐ ที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา นายแบรด แรฟเฟนสเปอร์เกอร์ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของ รัฐจอร์เจีย กล่าววานนี้ (6 พ.ย.) ว่า จะมี การนับคะแนนเลือกตั้งใหม่ ในรัฐจอร์เจียเนื่องจากนายโจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน มีคะแนนเลือกตั้งสูสีกันอย่างมาก
ล่าสุด จากการนับคะแนน 99% ในรัฐจอร์เจีย นายไบเดนสามารถพลิกมาแซงปธน.ทรัมป์ โดยเฉือนกันเพียง 1 พันกว่าคะแนน โดยนายไบเดนได้คะแนนเลือกตั้งไป 2,455,510 คะแนน ส่วนทรัมป์ได้ 2,452,599 คะแนน ซึ่งเมื่อเทียบเป็นเปอร์เซนต์แล้ว ทั้งสองได้คะแนนเสียงเท่า ๆ กันคือราว 49.4%
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"เนื่องจากผลการนับคะแนนสูสีกันอย่างมาก จึงต้องมีการนับคะแนนใหม่ในจอร์เจีย โดยผลการนับคะแนนในจอร์เจียจะมีนัยสำคัญต่อทั้งประเทศเป็นอย่างมาก" นายแรฟเฟนสเปอร์เกอร์กล่าว
ขณะนี้ทั่วโลกต่างจับตาไปที่การนับคะแนนเลือกตั้งที่รัฐจอร์เจีย ซึ่งมีคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral Vote) สูงถึง 16 เสียง ซึ่งหากนายไบเดนคว้าชัยชนะในรัฐนี้จริง ก็จะส่งให้เขาก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ได้ทันที
สื่อต่างประเทศรายงานผลว่า ขณะนี้ นายไบเดนมีคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้ง 264 เสียง ขณะที่ปธน.ทรัมป์ได้ 214 เสียง โดยนายไบเดนต้องการอีกเพียง 6 เสียงเท่านั้นก็จะได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งหรือ 270 เสียงจากทั้งหมด 538 เสียง เพื่อชนะการเลือกตั้ง
ในช่วงเวลาเช้ามืดวันนี้ (7 พ.ย.) ตามเวลาประเทศไทย ประธานาธิบดีทรัมป์ได้โพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า นายไบเดนไม่ควรที่จะประกาศเคลมตำแหน่งประธานาธิบดี ตัวเขาเองก็สามารถประกาศได้เช่นกัน และขณะนี้กำลังมีการดำเนินการทางกฎหมายแล้ว ซึ่งนี่ถือเป็นจุดเริ่มต้นเท่านั้น