ราคาบิตคอยน์ ร่วงลงถึง 13% แตะที่ระดับ 16,317 ดอลลาร์ ซึ่งเป็น ระดับต่ำสุดในรอบ 10 วัน โดยเป็น การปรับฐานลงอย่างมาก หลังจากที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีที่ 19,521 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 25 พ.ย.
ทั้งนี้ บิตคอยน์นับเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ทำราคาได้ “ดีที่สุด” ในปีนี้ โดยทะยานขึ้นกว่า 358.6% เมื่อเทียบกับระดับต่ำสุดในปีนี้ แต่ยังไม่สามารถทุบสถิติเดิมที่ทำไว้เมื่อเดือนธ.ค. 2560 ที่ 19,666 ดอลลาร์
โดยการพุ่งขึ้นของบิตคอยน์ได้แรงหนุนจากความต้องการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากขึ้น ความสนใจในสินทรัพย์ที่ต้านทานเงินเฟ้อ และการคาดการณ์ที่ว่าคริปโตเคอเรนซี หรือ บรรดาสกุลเงินดิจิทัล จะได้รับการยอมรับเป็นวงกว้าง ขณะที่บรรดาบริษัทเทคโนโลยีด้านการเงิน หรือฟินเทค ซึ่งรวมถึง PayPal และ Square ต่างหันมาทำธุรกรรมบิตคอยน์กันมากขึ้นเช่นกัน
นอกจากนี้ บิตคอยน์ยังได้แรงหนุนจากการที่รัฐบาลและธนาคารกลางทั่วโลกพากันออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งมาตรการดังกล่าวได้ทำให้สกุลเงินของหลายประเทศอ่อนค่าลง ซึ่งรวมทั้งดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้นักลงทุนหันมาถือครองบิตคอยน์ในฐานะสินทรัพย์ทางเลือก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บิตคอยน์พุ่งไม่หยุด จ่อทุบนิวไฮใกล้ 20,000 ดอลลาร์
การเงินกับโลกแห่งอนาคตที่กำลังค่อยๆ เปลี่ยนไป
สกัดขาใหญ่ฟอกเงินดิจิทัล “ปปง.-ก.ล.ต.” จับมือออกล่า
อย่าแชร์ต่อ ข่าวเท็จบิทคอยน์ อ้างชื่อเจ้าสัวธนินท์
การร่วงลงของบิตคอยน์ ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก ส่งผลให้สกุลเงินดิจิทัลขนาดเล็กกว่าสกุลอื่น ๆ ร่วงลงตามไปด้วย รวมถึงอีเธอเรียม (ethereum) ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากบิตคอยน์ ร่วงลง 13% และสกุลเงินดิจิทัลอันดับสามอย่าง XRP ดิ่งลงมากกว่า 20% โดยทั้งสองสกุลเงินมักเคลื่อนไหวตามบิตคอยน์