รัฐบาลมาเลเซีย เตรียมร้องทุกข์กล่าวโทษ บริษัท ท็อป โกลฟ คอร์ป ซึ่งเป็น ผู้ผลิตถุงมือยางรายใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นบริษัทสัญชาติมาเลเซีย หลังพบว่าที่พักของพนักงานและคนงาน ไม่ถูกสุขลักษณะจนเป็นสาเหตุทำให้ พนักงานติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวนหลายพันคน
ผลการตรวจล่าสุดเมื่อวันที่ 30 พ.ย. พบว่าพนักงานของท็อป โกลฟ ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวนรวมทั้งสิ้น 3,406 คน
ทั้งนี้ กรมแรงงาน ซึ่งขึ้นต่อกระทรวงทรัพยากรมนุษย์ของมาเลเซีย ได้เข้าทำการตรวจสอบที่พักของพนักงานและคนงานบริษัทท็อป โกลฟ และจัดแถลงผลการตรวจสอบ ระบุว่า หลังเสร็จสิ้นการตรวจสอบที่พักพนักงานท็อป โกลฟ ใน 5 รัฐของมาเลเซีย ทางกรมแรงงานได้เสนอให้มีการฟ้องร้องบริษัทดังกล่าว เนื่องจากพบว่า ที่พักมีความแออัดเกินไป ไม่มีระบบระบายอากาศที่ดี และไม่มีพื้นที่สำหรับการพักผ่อนและการปรุงอาหาร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มาเลย์ฯ สั่งปิดโรงงาน"ท็อป โกลฟ" 28 แห่ง หลังคนงานติดโควิดกว่า 2 พันราย
"มาเลเซีย" ห้ามพลเมือง 9 ประเทศเข้าประเทศ สกัดโควิด-19 แพร่ระบาด
นายกฯมาเลย์ประกาศกักตัวเอง หลังพบรัฐมนตรีติดโควิด
นอกจากนี้ ทางกรมแรงงานต้องการสร้างความมั่นใจว่าที่พักของพนักงานจะไม่กลายเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรค รวมทั้งรัฐบาลต้องการหลีกเลี่ยงการถูกกล่าวหาว่ามีการใช้แรงงานทาส หลังจากที่เมื่อเดือนต.ค. ที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกาได้ขึ้นบัญชีดำถุงมือยางที่ผลิตจากมาเลเซียว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากแรงงานทาส
ด้านผู้บริหารของท็อป โกลฟระบุว่า บริษัทจะทำการปรับปรุงที่พักพนักงานให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นปีนี้
ก่อนหน้านี้ นายนูร์ ฮิแชม อับดุลเลาะห์ อธิบดีกรมอนามัยของมาเลเซีย ยืนยันว่า รัฐบาลได้สั่งให้มีการทยอยปิดโรงงานของบริษัทท็อป โกลฟ หลังพบพนักงานติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นจำนวนมาก ขณะที่นายอิสมาอิล ซาบรี ยาคอบ รัฐมนตรีความมั่นคงมาเลเซีย กล่าวเสริมในทิศทางเดียวกันว่า รัฐบาลมาเลเซียเห็นชอบให้มีการทยอยปิดโรงงานของบริษัทท็อป โกลฟ เพื่อให้มีการตรวจสอบ คัดกรอง และกักตัวพนักงาน เพื่อที่จะสามารถควบคุมการแพร่กระจายของโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ