แมคโดนัลด์ ยักษ์ใหญ่ใน ธุรกิจฟาสต์ฟูด สัญชาติอเมริกัน ประกาศแผนนำ เทคโนโลยีดิจิทัล มาใช้ในการเพิ่มยอดขายที่กำลังเติบโตในอัตราหลักหน่วยต้น ๆ พร้อมกันนี้ ยังมีแผนจับมือคนดังและบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการต่าง ๆมาร่วมสร้างสีสันทางการตลาด แมคโดนัลด์ยังจะเพิ่มเมนูไก่มากขึ้น และทดลองนำกลยุทธ์ผูกใจลูกค้าประจำ (loyalty program) ด้วยการสะสมแต้มคะแนนทุก ๆการใช้จ่ายภายในร้าน มาใช้ในตลาดสหรัฐอเมริกาอีกครั้ง
ทั้งนี้ ผู้บริหารของบริษัทให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซีเมื่อเร็ว ๆนี้ ระบุว่า บริษัทคาดหมายทำยอดขายจากร้านสาขาเปิดใหม่ ในสัดส่วนเพียงประมาณ 1.5-2% ของยอดขายปี 2565 หรือปีหน้า แต่ขณะเดียวกันก็ขอเตือนบรรดานักลงทุนและผู้ถือหุ้นว่า สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เกิดความไม่แน่นอนทางธุรกิจและอะไร ๆก็เกิดขึ้นได้
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของแมคโดนัลด์ บริษัทได้พยายามปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการ ให้ตอบสนองพฤติกรรมการบริโภคของลูกค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และลงมือดำเนินการอย่างฉับไวทันต่อสถานการณ์ เช่นการคงเมนูยอดนิยมเอาไว้ และทุ่มงบเพิ่มเติมเพื่อปรับปรุงบริการไดรฟธรู (drive-thru orders)ที่กำลังได้รับความนิยม มีลูกค้ามาใช้บริการมากขึ้นเรื่อย ๆ
แมคโดนัลด์คาดหมายว่า ยอดขายทางช่องทางดิจิทัลที่กำลังไปได้ดีน่าจะทำรายได้ให้บริษัทราว 10,000 ล้านดอลลาร์ ดังนั้น จึงมีแผนเปิดตัวแพลตฟอร์มดิจิทัลที่เรียกว่า มายแมคโดนัลด์ (MyMcDonald’s) มาให้บริการแก่ลูกค้า โดยจะนำร่องใน 6 เมืองใหญ่เป็นตลาดทดลอง มายแมคโดนัลด์ประกอบด้วยบริการในรูปแบบดิจิทัลที่หลากหลาย เช่น เมนูบอร์ดอิเล็กทรอนิกส์ แอปพลิเคชันสำหรับสั่งสินค้าออนไลน์และชำระเงินด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนบริการไดรฟธรู เพื่อความรวดเร็วและสะดวกสบาย บริษัทมีแผนประเดิมเปิดตัวแพลตฟอร์ม “มายแมคโดนัลด์” ที่เมืองฟีนิกซ์ในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้
สำหรับผลประกอบการในช่วงที่ผ่านมา ไตรมาสสุดท้ายของปี 2563 แมคโดนัลด์ทำรายได้ 5,310 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งต่ำกว่าความคาดหมายที่ตั้งไว้ 5,370 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนยอดขายตลาดโลกร่วงลง 1.3% ขณะที่ยอดขายในสหรัฐเพิ่มขึ้น 5.5% นายคริส เคมซินสกี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแมคโดนัลด์ระบุว่า ยอดขายในตลาดโลกที่ลดลงนั้นเป็นผลพวงมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ต้องปิดบริการนั่งรับประทานภายในร้านจำนวนหลายสาขา ดังนั้น สาขาที่เน้นการนั่งรับประทานในร้านหรือไม่มีบริการดิลิเวอรี่ ก็จะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'แมคโดนัลด์' ชู 'Delivery-Drive Thru-Digital' สู้ศึก QSR