นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าววานนี้ (22 ก.พ.) ว่า อังกฤษกำลังอยู่บนถนนเดินรถทางเดียวมุ่งหน้าสู่อิสรภาพ ซึ่งหมายถึง การปลดมาตรการล็อกดาวน์ ที่ประกาศใช้ทั่วประเทศมาตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค.2564 ซึ่งเป็นช่วงที่อังกฤษต้องเผชิญกับไวรัสโควิดกลายพันธุ์ หลังจากที่ใช้มาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มข้นมาเกือบ 2 เดือน เขาหวังว่า อังกฤษจะสามารถกลับมาเปิดเศรษฐกิจส่วนใหญ่ได้อีกครั้ง แต่การทยอยคลายมาตรการล็อกดาวน์เพื่อเปิดเศรษฐกิจให้สามารถดำเนินการได้ตามปกติอีกครั้งนั้น จะพิจารณาจากตัวเลขข้อมูลเป็นหลัก ไม่ได้ยึดในเรื่องกำหนดวันที่ และอาจจะยังมีการเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
ทั้งนี้ ขั้นแรก ของการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ คือ การเปิดโรงเรียนทั่วประเทศในวันที่ 8 มี.ค. รวมถึงการทำกิจกรรมกลางแจ้งซึ่งยังมีข้อจำกัดในระดับหนึ่งเพื่อไม่เป็นการประมาท เช่น อนุญาตให้นั่งเก้าอี้ในสวนสาธารณะร่วมกันได้เพียง 2 คนเท่านั้น จากนั้นในวันที่ 29 มี.ค. ก็จะอนุญาตให้มีการชุมนุมหรือจับกลุ่มกันในที่สาธารณะได้ไม่เกิน 6 คน หรือถ้าเป็นครอบครัวก็สังสรรค์กันได้ 2 ครอบครัว(พื้นที่กลางแจ้ง) เป็นต้น
ในแต่ละขั้นของการดำเนินการคลายล็อกดาวน์นั้น จะมีระยะห่างอย่างน้อย 5 สัปดาห์ เพื่อให้ 4 สัปดาห์เป็นช่วงที่รัฐบาลได้รวบรวมข้อมูลและประเมินผลเพื่อวางแผนหรือปรับเปลี่ยนขั้นต่อไป และ 1 สัปดาห์ใช้สำหรับการแจ้งข่าวแก่ประชาชนและภาคธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องได้เตรียมตัว-เตรียมความพร้อม
ขั้นที่สอง น่าจะเริ่มได้อย่างเร็วที่สุดคือวันที่ 12 เม.ย. เป็นการเปิดร้านค้าและสถานบริการที่ไม่อยู่ในกลุ่มร้านค้าสิ่งของจำเป็นหรือบริการที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน ซึ่งกรณีนี้ได้แก่ ร้านเสริมสวย สถานออกกำลังกาย พิพิธภัณฑ์ สวนสัตว์ และสวนสนุก ในขั้นนี้ยังคงไว้ซึ่งกฎเกณฑ์การเว้นระยะห่างทางสังคม กิจกรรมในครัวเรือนยังจำกัดเฉพาะสมาชิกในครอบครัวเท่านั้น นอกจากนี้ ร้านอาหารและผับ บาร์ ยังสามารถเปิดให้บริการแต่การนั่งโต๊ะร่วมกันต้องไม่เกิน 6 คน หรือไม่เกิน 2 ครอบครัว และให้นั่งจับกลุ่มได้ในพื้นที่เปิดนอกร้านเท่านั้น ในขั้นนี้ไม่มีการกำหนดเวลาเคอร์ฟิวอีก และไม่มีข้อห้ามในการสั่งอาหารและเครื่องดื่ม
ขั้นที่สาม เร็วสุดน่าจะเป็น 17 พ.ค. ขั้นนี้จะยกเลิกมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมเกือบทั้งหมด สามารถชุมนุมกลางแจ้งได้ถึง 30 คน ผับ-ร้านอาหารสามารถให้บริการนั่งโต๊ะภายในร้านได้แล้ว แต่ให้นั่งได้ไม่เกินโต๊ะละ 6 คน ในขั้นนี้ การผ่อนคลายยังรวมถึงการเปิดโรงภาพยนตร์และสถานแสดงดนตรีด้วย โดยผู้ชมต้องไม่เกิน 1,000 คน รวมทั้งสนามกีฬาที่ให้มีผู้ชมได้ถึง 10,000 คน
ส่วน ขั้นที่สี่ ซึ่งเป็นขั้นสุดท้ายคาดว่าจะมีขึ้นได้อย่างเร็วสุดคือวันที่ 12 มิ.ย. ซึ่งขั้นนี้จะยกเลิกมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมเกือบทั้งหมด และสถานบันเทิงกลางคืนอย่าง ไนต์คลับ สามารถกลับมาเปิดได้อีกครั้ง
ข่าวระบุว่า ในส่วนของการเปิดประเทศสำหรับผู้เดินทางมาจากต่างประเทศนั้น คาดว่าเร็วที่สุดจะเปิดได้ในวันที่ 17 พ.ค.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: