ในการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ขณะนี้เชื้อ โควิด-19 กลายพันธุ์สายพันธุ์ B.1.617 ซึ่งพบเป็นครั้งแรกในประเทศอินเดีย ได้แพร่ระบาดไปใน 44 ประเทศทั่วโลกแล้ว หลังได้รับรายงานล่าสุดพบระบาดเพิ่มในอีก 5 ประเทศ
ก่อนหน้านี้เมื่อวันจันทร์ (10 พ.ค.) WHO ได้ประกาศให้เชื้อ ไวรัสโคโรนากลายพันธุ์สายพันธุ์อินเดีย เป็นสายพันธุ์ที่สร้างความวิตกกังวล (variant of concern) จากเดิมที่เป็นเพียง “สายพันธุ์ที่น่าสนใจ” (สำหรับการศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติม) หลังจากที่ผลการศึกษาเบื้องต้นส่วนหนึ่งชี้ว่า เชื้อไวรัสสายพันธุ์นี้สามารถแพร่ระบาดได้ง่ายขึ้น เป็นอันตรายถึงชีวิตได้มากขึ้น และอาจจะสามารถหลีกเลี่ยงภูมิต้านทานที่ร่างกายสร้างขึ้นหลังได้รับวัคซีน
โดยเชื้อกลายพันธุ์สายพันธุ์อินเดียนี้ กลายเป็นเชื้อไวรัสโควิดกลายพันธุ์ชนิดที่ 4 ที่ WHO ประกาศให้เป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวลต่อจากสายพันธุ์อังกฤษ (B.1.1.7) สายพันธุ์แอฟริกาใต้ (B.1.351) และสายพันธุ์บราซิล (P.1)
WHO เปิดเผยว่า เชื้อไวรัสสายพันธุ์อินเดีย หรือ B.1.617 นั้น มีการตรวจพบครั้งแรกที่ประเทศอินเดียในเดือนต.ค. 2563 แต่หลังจากนั้นก็มีการแพร่กระจายออกไปในประเทศอื่น ๆ ซึ่งจากฐานข้อมูลในระบบเปิดพบว่า ปัจจุบันมีการตรวจพบ B.1.617 ใน 44 ประเทศของ 6 ภูมิภาคทั่วโลก ไวรัสดังกล่าวมีการกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ย่อย ซึ่ง ณ สิ้นเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา มีการตรวจพบสายพันธุ์ย่อยคือ B.1.617.1 และ B.1.617.2 ที่ครองสัดส่วน 21% และ 7 % ตามลำดับ ของตัวอย่างทั้งหมดที่เก็บรวบรวมมาสำหรับการวิจัยการกลายพันธุ์ของไวรัสจากประเทศอินเดีย
การที่สายพันธุ์ B.1.617 และสายพันธุ์ย่อยสามารถแพร่กระจายได้ง่ายขึ้นและเร็วขึ้นเมื่อเทียบกับสายพันธุ์ดั้งเดิม เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้การแพร่ระบาดระลอกใหม่ในอินเดียมีผู้ติดเชื้อใหม่จำนวนมาก รวมทั้งยอดผู้เสียชีวิตทะยานสูงขึ้นด้วย และทำให้ระบบสาธารณสุขในเมืองใหญ่ของอินเดีย เช่น นิวเดลี และมุมไบ ต้องรับมือกับจำนวนผู้ป่วยที่ล้นทะลักและเกิดภาวะขาดแคลนเวชภัณฑ์ที่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็นเตียงผู้ป่วย ถังออกซิเจน หรือเครื่องช่วยหายใจ
ปัจจุบัน อินเดียซึ่งมีประชากรราว 1,300 ล้านคน เป็นประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมมากเป็นอันดับสองของโลกรองจากสหรัฐอเมริกา โดยมีผู้ติดเชื้อสะสมเกือบ ๆ 23 ล้านราย มีอัตราติดเชื้อของผู้ป่วยใหม่มากกว่า 300,000 รายต่อวัน และมียอดผู้เสียชีวิตเฉียด ๆ 4,000 รายต่อวัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง