กระทรวงสาธารณสุขเวียดนาม เปิดเผยถึงการพบปะเจรจาระหว่างนายเหงียน ถั่น ลอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กับผู้แทนจาก กองทุนการลงทุนตรงแห่งรัสเซีย หรือ RDIF (Russian Direct Investment Fund) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัสเซียที่ดูแลเรื่องการผลิตและกระจายวัคซีน เมื่อวานนี้ (2 มิ.ย.) ที่กรุงฮานอย ว่านอกจากเวียดนามจะเจรจาจองซื้อ วัคซีนป้องกันโควิด-19 “สปุตนิก วี” จากรัสเซียแล้ว ยังหารือเกี่ยวกับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตวัคซีนดังกล่าวให้แก่เวียดนาม เพื่อให้เวียดนามสามารถตั้งฐานการผลิตวัคซีนสปุตนิก วี ภายในประเทศ เป็นการสร้างความมั่นใจเกี่ยวกับปริมาณวัคซีนที่จะมีใช้ในระยะยาว
ทั้งนี้ รมว.สธ.ได้แสดงความยินดีกับความสำเร็จของรัสเซียที่สามารถขึ้นทะเบียนวัคซีนสปุตนิก วี เป็นวัคซีนป้องกันโควิด-19 ตัวแรกของโลกเมื่อกลางปี 2563 นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญของรัสเซียในการต่อสู้กับโรคระบาดใหญ่ที่แพร่กระจายไปทั่วโลกอย่างโควิด-19
เวียดนามเองได้จองซื้อวัคซีนสปุตนิก วีจากรัสเซียมาตั้งแต่เดือนส.ค. 2563 จากนั้นก็อนุมัติการใช้วัคซีนสปุตนิก วีในกรณีฉุกเฉินในประเทศเวียดนามมาตั้งแต่เดือนมี.ค. 2564 แต่เนื่องจากปริมาณการผลิตในระยะแรกยังไม่เพียงพอสำหรับการส่งออกให้แก่นานาประเทศที่ต้องการซื้อ รวมทั้งเวียดนาม ทำให้ RDIF ตกลงส่งมอบวัคซีนสปุตนิก วี ให้แก่เวียดนามได้เพียง 20 ล้านโดสในปีนี้ (2564)
ด้วยเหตุนี้ เวียดนามจึงมีแผนจัดตั้ง ฐานการผลิตวัคซีนสปุตนิก วี ภายในประเทศเพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะมีปริมาณวัคซีนที่เพียงพอในระยะยาว จึงมีการเจรจาหารือกับฝ่ายรัสเซียเพื่อขอถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตวัคซีน โดย หน่วยงาน “วาไบโอเทค” (Vabiotech) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจผู้ผลิตวัคซีนและไบโอชีวภัณฑ์ของเวียดนาม จะเป็นหน่วยงานหลักที่เชื่อมโยงการทำงานกับหน่วยงานของรัสเซียอย่างใกล้ชิดในโครงการนี้ โดยเบื้องต้นเวียดนามจะเป็นผู้บรรจุวัคซีนสปุตนิก วี ซึ่งขั้นตอนนี้เริ่มดำเนินการได้ในราวเดือนก.ค.นี้ ด้วยกำลังการผลิต 5 ล้านโดส/เดือน จากนั้นก็จะมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากรัสเซียเพื่อนำไปสู่การผลิตวัคซีนอย่างเต็มรูปแบบ สำหรับตลาดในประเทศและตลาดส่งออกในอนาคต
รมว.สาธารณสุขของเวียดนามเปิดเผยว่า การเจรจาเมื่อวานนี้ราบรื่นด้วยดีโดยฝ่ายรัสเซียให้การสนับสนุนข้อเสนอของเวียดนามอย่างเต็มที่ ซึ่งจะทำให้โครงการจัดตั้งฐานผลิตวัคซีนสปุตนิก วี ในเวียดนามเริ่มขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรมในเร็ววัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง