การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา หรือ อังค์ถัด (UNCTAD) เปิดเผย รายงานด้านการลงทุนทั่วโลก ฉบับล่าสุดว่า ยอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ทั่วโลกในปี 2563 ปรับตัวลงถึง 35% เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างไรก็ดี คาดว่ายอด FDI ทั่วโลกจะดีดตัวขึ้นในปีนี้ (2564) โดยมีแนวโน้มขยายตัวราว 10-15% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในเอเชีย
รายงาน "World Investment Report 2021" ของ UNCTAD ที่เปิดเผยเมื่อต้นสัปดาห์ (21 มิ.ย.) ระบุว่า ยอด FDI ทั่วโลกลดลงมาอยู่ที่ระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2563 ซึ่งเป็นการลดลงจากระดับ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2562
ทั้งนี้ มาตรการล็อกดาวน์ที่รัฐบาลทั่วโลกนำมาใช้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้น ได้ส่งผลให้โครงการลงทุนต่าง ๆ ชะลอตัวลง นอกจากนี้ เศรษฐกิจที่มีแนวโน้มถดถอยยังส่งผลให้บรรดาบริษัทข้ามชาติต้องกลับมาทบทวนโครงการใหม่ๆ
รายงานของ UNCTAD ยังระบุด้วยว่า โครงการลงทุนสีเขียวในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ปรับตัวลง 42% ขณะที่การทำข้อตกลงด้านการเงินในโครงการระหว่างประเทศซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นด้านสาธารณูปโภค ปรับตัวลง 14%
อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าสังเกตว่า ยอด FDI ในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 4% แตะที่ 5.35 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2563 ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจเอเชียมีความยืดหยุ่นแม้ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจทั่วโลกกำลังชะลอตัวลง
ทั้งนี้ คาดว่า ตัวเลข FDI ปี 2564 ในเอเชีย มีแนวโน้มจะดีดตัวขึ้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก เนื่องจากการฟื้นตัวในด้านการค้า กิจกรรมด้านการผลิต และตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง