สื่อต่างประเทศรายงานว่า รัฐสภาฝรั่งเศส อนุมัติ ร่างกฎหมาย ที่กำหนดให้บุคลากรทางแพทย์และผู้ปฏิบัติงานด้านสุขภาพต้อง ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ทั้งยังกำหนดให้ประชาชนแสดง ผลตรวจสุขภาพ ก่อนที่จะเข้าใช้บริการสถานที่ต่าง ๆ ในขณะที่ฝรั่งเศสกำลังต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 4
ภายใต้กฎหมายใหม่ดังกล่าว ประชาชนที่ต้องการเข้าชมพิพิธภัณฑ์ โรงภาพยนตร์ หรือเข้าใช้งานสระว่ายน้ำในฝรั่งเศส จะถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าใช้บริการ หากพวกเขาไม่แสดงหลักฐานยืนยันการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 หรือหลักฐานยืนยันการตรวจเชื้อโควิดที่มีผลตรวจเป็นลบ
และตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมเป็นต้นไป ประชาชนจะต้องแสดงหลักฐานดังกล่าวก่อนเข้าสู่ร้านอาหารและบาร์ รวมทั้งในการเดินทางด้วยรถไฟและเครื่องบินระยะทางไกล
มาตรการในร่างกฎหมายดังกล่าวมีกำหนดสิ้นสุดในวันที่ 15 พ.ย.2564 โดยจะต้องได้รับการอนุมัติขั้นสุดท้ายจากศาลรัฐธรรมนูญก่อนที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้
ด้านเจ้าหน้าที่ได้เร่งกระบวนการฉีดวัคซีนทั่วประเทศ และเดินหน้าขยายการเข้าถึงการฉีดวัคซีนสำหรับผู้ที่ยังไม่ได้นัดหมายมาก่อน ท่ามกลางความพยายามของฝรั่งเศสที่กำลังต่อสู้กับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ “เดลตา” ที่กระจายตัวอย่างรวดเร็ว
ข้อมูล ณ วันอาทิตย์ที่ผ่านมา (25 ก.ค.) ระบุว่า ประชากรราว 49.3% จากจำนวนทั้งสิ้น 67 ล้านคนของประเทศฝรั่งเศสได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบโดสแล้ว ซึ่งยังห่างไกลเกินกว่าที่จะสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ (herd immunity)ให้เกิดขึ้นได้ โดยสถาบันปาสเตอร์ของฝรั่งเศสระบุว่า หากต้องการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ประชาชนผู้ใหญ่ในประเทศจะต้องได้รับวัคซีนเกิน 90%