นายแฮร์รี โร้ก โฆษกประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์ของรัฐวานนี้ (30 ก.ค.) ถึงวิกฤตสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 และคำสั่งประธานาธิบดีว่า ประธานาธิบดีโรดริโก ดูแตร์เต ได้ลงนามในคำสั่งให้ ล็อกดาวน์กรุงมะนิลา รอบใหม่ เริ่มตั้งแต่วันที่ 6 ส.ค.จนถึงวันที่ 20 ส.ค. นี้
คำสั่งดังกล่าวครอบคลุมถึงการปิดห้างร้าน ตลอดจนระบบคมนาคม และการรณรงค์ให้ประชาชนกว่า 13 ล้านคนในกรุงมะนิลา ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศ อยู่แต่ในบ้านหรือทำงานจากบ้าน เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา ยกเว้นแต่เมื่อมีธุระจำเป็น เช่น ไปพบแพทย์หรือไปซื้ออาหารในร้านค้าหรือในชุมชน
นายโรก กล่าวถึงการประกาศล็อกดาวน์กรุงมะนิลาครั้งนี้ ว่าเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก แต่รัฐบาลก็จำเป็นต้องทำเพื่อความปลอดภัยด้านสุขภาพอนามัยของประชาชนส่วนใหญ่ เป็นที่คาดหมายว่าการล็อกดาวน์ครั้งใหม่นี้ อาจส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจคิดเป็นมูลค่าถึง 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ด้านนายเบนจามิน อาบาลอส ประธานสภาเทศบาลแห่งกรุงมะนิลาเปิดเผยว่า ในช่วงเวลาของการล็อกดาวน์นี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของฟิลิปปินส์จะเร่งขยายโครงการกระจายวัคซีนให้ครอบคลุมท้องที่ต่างๆของกรุงมะนิลาให้มากขึ้น โดยตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้กับประชาชนเฉลี่ย 250,000 โดสต่อวัน เพิ่มขึ้นจาก 150,000 โดสต่อวันในปัจจุบัน
ฟิลิปปินส์เคยมีคำสั่งล็อกดาวน์กรุงมะนิลาก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา กระทั่งสถานการณ์เริ่มมีแนวโน้มคลี่คลายและตัวเลขผู้ป่วยใหม่ลดลง รัฐบาลก็เริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ดังกล่าวเมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติจนกระทั่งไวรัสเดลต้า ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสโควิดกลายพันธุ์ เริ่มแพร่ระบาดหนักทำให้ฟิลิปปินส์มีผู้ป่วยสะสมขยับขึ้นเป็น 1.57 ล้านราย และผู้เสียชีวิตจากโควิด 27,577 ราย
พร้อมกันนี้ ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ยังได้อนุมัติให้ขยายเวลาคำสั่งห้ามผู้เดินทางจาก 10 ประเทศซึ่งรวมทั้งไทย เข้าฟิลิปปินส์ ไปจนถึงวันที่ 15 ส.ค.2564 เป้าหมายเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ต่างๆ ในชุมชนของฟิลิปปินส์
ทั้งนี้ รายชื่อ 10 ประเทศดังกล่าวประกอบด้วย ไทย อินเดีย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ปากีสถาน เนปาล บังกลาเทศ ศรีลังกา โอมาน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี)
อย่างไรก็ดี รัฐบาลฟิลิปปินส์อนุญาตให้ชาวฟิลิปปินส์ที่ทำงานในต่างแดนเดินทางกลับประเทศได้ภายใต้โครงการส่งตัวกลับประเทศ (Repatriation Program) แต่ประชาชนกลุ่มนี้จะต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วันเมื่อเดินทางมาถึง
กระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาได้แพร่ระบาดอย่างหนักในฟิลิปปินส์ โดยเมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาในรอบ 24 ชั่วโมงจำนวน 97 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาภายในประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 216 ราย และพบว่ามีผู้เสียชีวิตจากไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวแล้วอย่างน้อย 8 ราย
สถิติชี้ว่า จนถึงวันพฤหัสบดี (29 ก.ค.) ฟิลิปปินส์มียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมที่ 1,572,287 ราย และมียอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 27,577 ราย