ตาลีบันลั่น "สงครามสิ้นสุดแล้ว" พร้อมสานสัมพันธ์ประชาคมโลก

สื่อต่างประเทศรายงานว่า นายอัชราฟ กานี ประธานาธิบดีอัฟกานิสถาน ได้เดินทางออกนอกประเทศแล้วตั้งแต่เมื่อคืนนี้ (15 ส.ค.) หลังจากที่ กลุ่มตาลีบัน ได้รุกคืบเข้าสู่กรุงคาบูล เมืองหลวง โดยนายกานีกล่าวว่า การที่เขาตัดสินใจเดินทางออกนอกประเทศนั้น เพราะต้องการหลีกเลี่ยงการนองเลือดและการปะทะกับกลุ่มตาลีบัน ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อประชาชนหลายล้านคนใน กรุงคาบูล อย่างไรก็ดี เขาไม่ได้เปิดเผยว่าได้เดินทางไปยังประเทศใด แม้ว่าจะมีข่าวออกมาหลายกระแสว่าเขาอาจลี้ภัยไปยังทาจิกิสถาน หรืออุซเบกิสถาน

สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นได้แพร่ภาพกลุ่มตาลีบันที่เข้ายึดครองทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงคาบูล โดยนายมูฮัมหมัด นาอิม โฆษกของกลุ่มตาลีบัน เปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์อัลจาซีรา ทีวี ว่า "วันนี้เป็นวันที่ดีสำหรับชาวอัฟกันและกลุ่มมูญาฮิดีน พวกเขาได้เห็นผลลัพธ์ของความพยายามและการเสียสละมาเป็นเวลามากกว่า 20 ปีแล้ว ขอสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า สงครามในประเทศนี้ได้สิ้นสุดลงแล้ว"

นายนาอิมกล่าวว่า ระบอบการปกครองใหม่ในอัฟกานิสถานจะมีความชัดเจนมากขึ้นในเร็ววันนี้ และยืนยันว่า กลุ่มตาลีบันไม่ต้องการอยู่อย่างโดดเดี่ยว และเรียกร้องให้มีความสัมพันธ์กับประชาคมโลกด้วยสันติวิธี

"เราได้บรรลุสิ่งที่เราแสวงหาแล้ว นั่นคือเสรีภาพของประเทศเรา และความเป็นอิสระของประชาชน" เขากล่าว "เราจะไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้ามาใช้ที่ดินของเราเพื่อเล็งเป้าหมายไปที่ผู้อื่น และเราไม่ต้องการทำร้ายผู้อื่น"

ทางด้านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา แถลงช่วงเช้าวันนี้ (ตามเวลาท้องถิ่น)ว่า เจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐในอาฟกานิสถานทั้งหมด รวมทั้งนายรอส วิลสัน เอกอัครราชทูตสหรัฐ ได้เดินทางไปยังสนามบินคาบูลเพื่อรอการอพยพแล้ว โดยมีการเชิญธงชาติอเมริกันลงจากยอดเสาและถอดออกเพื่อนำออกจากบริเวณสถานทูต

รายงานระบุว่า ชาวอัฟกันหลายร้อยคนได้แห่กันไปยังรันเวย์ของสนามบินในช่วงกลางคืน พร้อมลากกระเป๋าเดินทางเข้าแย่งชิงที่นั่งของเที่ยวบินพาณิชย์เที่ยวสุดท้ายที่จะออกจากประเทศ ก่อนที่กองกำลังสหรัฐจะเข้าควบคุมการจราจรทางอากาศตั้งแต่ช่วงคืนวันอาทิตย์ (15 ส.ค.)

นอกจากสหรัฐแล้ว หลายประเทศที่มีเจ้าหน้าที่การทูตประจำการอยู่ในอัฟกานิสถาน ซึ่งรวมทั้งอังกฤษ เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี และนอร์เวย์ ต่างก็ประกาศอพยพเจ้าหน้าที่และประชาชนของตนออกจากอัฟกานิสถานแล้วเช่นกัน