บทเรียนโควิดจากยุโรป ฉีดวัคซีนช้า ยอดติดเชื้อใหม่พุ่งแรง

องค์การอนามัยโลก (WHO) ประจำภูมิภาคยุโรป เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขดำเนินการโดย “เร่งด่วน” เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดที่รวดเร็วของไวรัสโควิด-19 รวมถึงการเร่งสปีดอัตราการฉีดวัคซีนที่ล่าช้าในภูมิภาค

 ดร.ฮันส์ คลูจ ผู้อำนวยการ WHO ประจำภูมิภาคยุโรปกล่าววานนี้ (30 ส.ค.) ว่า อัตราการแพร่ระบาดที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในภูมิภาคยุโรปเป็นสิ่งน่ากังวลอย่างยิ่ง ท่ามกลางอัตราการฉีดวัคซีนที่ “ล่าช้า” ในกลุ่มประชากรเป้าหมายในหลายประเทศ และหลายประเทศยุโรปเริ่มเผชิญกับยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นจนกระทบต่อภาระงานในโรงพยาบาล และยังมีผู้เสียชีวิตมากขึ้นด้วย

WHO ยุโรประบุว่า เริ่มเห็นสัญญาณเตือนในชาติสมาชิกของภาคพื้นยุโรป 33 ประเทศ จากทั้งหมด 53 ประเทศและเขตแดน ซึ่งรายงานว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นในอัตรามากกว่า 10% ในช่วง 14 วันที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 11% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วย

ทั้งนี้ ปัจจัย 3 ประการที่ทำให้มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มขึ้น นั้น นพ.คลูจ ระบุว่า ได้แก่

• ปัจจัยแรก คือ เชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาที่แพร่กระจายได้มากกว่า ซึ่งปัจจุบันมีรายงานการระบาดใน 50 ประเทศของภูมิภาค
• ปัจจัยที่สอง คือ การผ่อนคลายมาตรการด้านสาธารณสุข
• ปัจจัยที่สาม คือ การเดินทางที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล ซึ่งมีส่วนทำให้ยอดผู้ติดเชื้อในหลายประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

สื่อต่างประเทศรายงานว่า แม้ยุโรปจะฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไปแล้วเกือบ 850 ล้านโดส และประชากรเกือบครึ่งหนึ่งในภูมิภาคได้รับการฉีดวัคซีนครบสองโดสแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีบางประเทศยุโรปที่เข้าถึงวัคซีนได้ไม่ทั่วถึง ขณะที่ประชาชนในบางประเทศไม่ยอมรับวัคซีนโดยอ้างสิทธิส่วนบุคคลในการตัดสินใจ  

ในตอนหนึ่งของถ้อยแถลง นพ.คลูจเตือนว่า ยุโรปจะมีผู้เสียชีวิตรายใหม่จากไวรัสโควิด-19 ได้อีก 236,000 รายภายในวันที่ 1 ธ.ค. "เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ยุโรปมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นจำนวน 11% และจากตัวเลขประมาณการที่เชื่อถือได้บ่งชี้ว่า ยุโรปอาจจะมีผู้เสียชีวิตรายใหม่ 236,000 รายภายในวันที่ 1 ธ.ค.นี้"

ปัจจุบัน ยุโรปมีผู้เสียชีวิตสะสมจากการติดเชื้อโควิด-19 จำนวนราว 1.3 ล้านราย และส่วนใหญ่ก็เป็นผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน

นับตั้งแต่ที่ WHO ได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการว่า มีการพบผู้ป่วยที่มีอาการปอดอักเสบรุนแรงจำนวนมากในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ในช่วงต้นเดือน ธ.ค.2562 จนถึงขณะนี้ ไวรัสโควิด-19 ได้คร่าชีวิตประชาชนทั่วโลกแล้ว มากกว่า 4,500,000 ราย (4,518,434 ราย ณ 30 ส.ค.2564) ส่วนยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ระดับ 217,391,620 ราย  โดยมีสหรัฐอเมริกาครองอันดับ 1 ของโลก ทั้งในแง่จำนวนผู้ติดเชื้อ (39,665,515 ราย) และผู้เสียชีวิต (654,689 ราย)