กูรูคาดตลาดหุ้นสหรัฐทำนิวไฮเดือนก.ย. ก่อนพักฐานปรับลง 10% ในต.ค.
ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา อาจผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงใช้นโยบายการเงินเชิงผ่อนคลายยาวนานขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นสหรัฐให้พุ่งขึ้นทำนิวไฮ
นายทอม ลี ผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดหุ้นและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Fundstrat Global Advisors คาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นสหรัฐ จะทำสถิติแข็งแกร่งสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนก.ย.นี้ ก่อนที่จะเข้าสู่การพักฐานในเดือนต.ค.
"เราคาดว่าตลาดหุ้นสหรัฐจะทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเดือนก.ย. โดยดัชนี S&P500 จะพุ่งขึ้นกว่า 100 จุด แต่หลังจากนั้นตลาดจะปรับตัวลงราว 10% ในเดือนต.ค." นายลีให้สัมภาษณ์ในรายการ "Trading Nation" ของสถานีโทรทัศน์ CNBC เมื่อเร็ว ๆนี้
ทั้งนี้ ปัจจัยที่จะส่งผลต่อภาวะการซื้อขายในตลาดสหรัฐนั้น จะมาจาก “ความเสี่ยง” ที่เกิดจากการใช้นโยบายการคลังและการเงิน รวมทั้งความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และฤดูไข้หวัดใหญ่ นอกจากนี้ ตลาดยังอาจได้รับแรงกดดันจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใกล้จะปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ก็จะสร้างความตื่นตระหนกในตลาดพันธบัตรด้วย
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์มองว่า ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา อาจผลักดันให้เฟดยังคงใช้นโยบายการเงินเชิงผ่อนคลายยาวนานขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นสหรัฐให้พุ่งขึ้นทำนิวไฮ
นายลีกล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีการขยายตัว ซึ่งจะสนับสนุนให้นักลงทุนกล้าเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยง โดยจะเห็นได้จากราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้น และราคาบิตคอยน์กลับมายืนที่เหนือระดับ 50,000 ดอลลาร์ได้อีกครั้ง
สำหรับหุ้นที่แนะนำแก่นักลงทุนนั้น ยังคงเป็นหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เช่น หุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มวัสดุ นอกจากนี้ นายลียังเล็งเห็นโอกาสเติบโตของหุ้นบริษัทเทคโนโลยีในกลุ่ม FAANG ซึ่งได้แก่ เฟซบุ๊ก แอมะซอน แอปเปิล เน็ตฟลิกซ์ และอัลฟาเบท
นักวิเคราะห์ยังเชื่อด้วยว่า ดัชนี S&P500 จะทะยานขึ้นเหนือระดับ 4,650 ในเดือนก.ย.นี้ ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายช่วงสิ้นปีอยู่ประมาณ 50 จุด โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (3 ก.ย.) ดัชนี S&P ปิดตลาดที่ระดับ 4,535.43 จุด