"ปูติน" กักตัวหลังคนใกล้ชิดและทีมงานติดโควิดระนาว

14 ก.ย. 2564 | 17:13 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ก.ย. 2564 | 10:10 น.

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย อยู่ในระหว่างการกักตัวเองโดยสมัครใจในช่วงเวลานี้หลังจากที่คนใกล้ชิดและทีมงานของประธานาธิบดีติดโควิด-19 กันหลายคน แม้ตัวปูตินเองจะฉีดวัคซีนป้องกันโควิดครบโดสแล้ว โดยเขาได้รับวัคซีนเข็มที่สองเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

สื่อต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ประชุมทางโทรศัพท์กับนายอีโมมาลี ราห์มอน ประธานาธิบดีทาจิกิสถานเมื่อวันอังคาร (14 ก.ย.) โดยเขากล่าวด้วยว่า ในการประชุมสุดยอดระดับภูมิภาคที่กำลังจะมีขึ้นในเร็ว ๆนี้ เขาคงต้องเข้าร่วมประชุมผ่านทางระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เนื่องจากกำลังอยู่ในช่วง กักตัวโดยสมัครใจ 

 

นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีปูตินเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แล้ว และผลออกมาเป็นลบ (ไม่พบเชื้อ) นอกจากนี้ ยังมีสุขภาพแข็งแรงมาก แต่ที่ต้องกักตัวเองก็เพราะคนใกล้ชิดติดโควิดหลายคน ประธานาธิบดีปูตินจึงต้องแสดงความรับผิดชอบว่าตัวเขาเองจะไม่ทำให้คนอื่น ๆ ต้องไม่สบายใจหรือรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยหากต้องทำงานร่วมกับเขา    

ระหว่างกักตัวก็ยังทำงานได้

ช่วงต้นสัปดาห์ ประธานาธิบดีปูตินเปิดเผยเองว่าทีมงานของเขาบางคนติดโควิด-19 สื่อระบุว่าการเปิดเผยดังกล่าวเป็นการหลุดปากท่ามกลางกลุ่มนักข่าวและช่างภาพ เนื่องจากปูตินกำลังเซ็นชื่อเป็นกำลังใจให้แก่ทีมนักกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากการแข่งขันที่ประเทศญี่ปุ่น ต่อมาโฆษกของทำเนียบประธานาธิบดีได้ออกมาชี้แจงว่า สิ่งที่ปูตินพูดนั้นหมายถึงสถานการณ์ทั่ว ๆไปและความเป็นห่วงเป็นใยเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิด-19

อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติหน้าที่ของเขาผ่านโทรศัพท์และเทคโนโลยีออนไลน์ในช่วงนี้บ่งบอกว่าผู้นำรัสเซียกำลังกักตัวเองโดยสมัครใจ ข่าวไม่ได้ระบุว่าคนใกล้ชิดและทีมงานของประธานาธิบดีที่ติดโควิด-19 คือใครบ้าง  

 

“การกักตัวไม่มีผลขัดขวางการทำงานของท่านประธานาธิบดี แต่จะไม่มีการพบปะกันแบบพบหน้ากันจริง ๆ ไประยะหนึ่ง” โฆษกเครมลินกล่าว

 

ทั้งนี้ รัสเซียเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ติดอันดับต้น ๆของโลก โดยปัจจุบันมีการแพร่ระบาดระลอกที่สาม รัสเซียมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากกว่า 7 ล้านราย (ข้อมูล ณ วันอังคารที่14 ก.ย.) นับเป็นอันดับ 8 ของโลก และมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 กว่า 190,000 ราย

แม้จะเป็นประเทศที่มีการวิจัยและพัฒนาวัคซีนต้านโควิดใช้ได้เอง แต่อัตราการฉีดวัคซีนต้านโควิดของประชาชนรัสเซียกลับอยู่ในระดับต่ำ ผู้คนยังคงลังเลที่จะฉีดวัคซีน ขณะนี้ประชาชนที่ฉีดวัคซีนไปแล้วมีสัดส่วนราว 1 ใน 4 ของประชากรทั้งประเทศ ถือว่ารั้งท้ายแบบไม่เห็นฝุ่น เมื่อเทียบกับสหรัฐอเมริกาที่ประชาชนฉีดวัคซีนไปแล้วมากกว่าครึ่ง และอังกฤษฉีดแล้วมากกว่า 2 ใน 3 ของประชากรทั้งประเทศ