รายงานข่าวระบุว่า บิตคอยน์ ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ยังได้ปัจจัยบวกจากการที่นายแกรี เกนสเลอร์ ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา ยืนยันว่าสหรัฐไม่มีแผนจะสั่งระงับการซื้อขายสกุลเงินคริปโต
ขณะนี้ บิตคอยน์มีมูลค่าตลาดมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมากกว่ามูลค่าตลาดของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่างเฟซบุ๊ก ขณะที่ตลาดสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมดในภาพรวมมีมูลค่าตลาด 2.3 ล้านล้านดอลลาร์ ใกล้เคียงกับมูลค่าตลาดของบริษัทแอปเปิล อิงค์.
ในการซื้อขายวานนี้ บิตคอยน์พุ่งขึ้นเหนือระดับ 50,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบ 1 เดือน หลังจากที่ดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ต้นเดือนต.ค.นี้
บิตคอยน์เคยทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 64,889 ดอลลาร์ในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ กระแสเงินลงทุนได้ไหลเข้าสู่สกุลเงินคริปโตและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง โดยได้แรงหนุนจากถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งระบุว่า เฟดไม่มีความตั้งใจที่จะสั่งระงับการซื้อขายสกุลเงินคริปโตแต่อย่างใด
สถิติที่ผ่านมาบ่งชี้ว่า สกุลเงินดิจิทัลมักปรับตัวได้ดีในเดือนต.ค. โดยสามารถฟื้นตัวขึ้นหลังจากปรับตัวย่ำแย่ในเดือนก.ย. ซึ่งรูปแบบการปรับตัวของบิตคอยน์ในปีนี้ก็สอดคล้องกับที่เคยเกิดขึ้นในอดีต โดยบิตคอยน์ดิ่งลงอย่างหนักในเดือนก.ย.ปีนี้ ใกล้หลุดระดับ 40,000 ดอลลาร์ หลังรัฐบาลจีนสั่งกวาดล้างการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับบิตคอยน์
ในเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ธนาคารกลางจีน ออกแถลงการณ์ระบุว่า การทำธุรกรรมทางการเงินทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งรวมถึงบิตคอยน์ ถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย และจะถูกกวาดล้างอย่างหนัก นอกจากนี้ แพลตฟอร์มจากต่างประเทศที่ให้บริการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลแก่ลูกค้าในจีน ก็ถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายเช่นกัน และพนักงานที่ทำงานให้แก่แพลตฟอร์มดังกล่าวจะถูกดำเนินการสอบสวน
ก่อนหน้านั้นในเดือนก.ค. ธนาคารกลางจีนก็เพิ่งมีคำสั่งห้ามสถาบันการเงิน รวมทั้ง Alipay ซึ่งเป็นบริการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ในเครือของบริษัทแอนท์กรุ๊ปของอาลีบาบา ให้บริการที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินคริปโต ขณะที่รัฐบาลจีนสั่งกวาดล้างเหมืองขุดบิตคอยน์อย่างหนักหน่วง ความเคลื่อนไหวทั้งหมดของทางการจีนนับตั้งแต่เดือนก.ค.มาจนถึงก.ย.นับเป็นข่าวร้ายที่ฉุดราคาบิตคอยน์ดิ่งลงมากที่สุดในปีนี้