ไต้หวันยันไม่ต้องการสู้รบ หลัง"สี จิ้นผิง" ย้ำภารกิจ "รวมชาติ" โดยสันติวิธี

09 ต.ค. 2564 | 22:12 น.
อัปเดตล่าสุด :10 ต.ค. 2564 | 06:47 น.

ประธานาธิบดีไต้หวันยันไม่ต้องการสู้รบปรบมือกับจีน หลังสี จิ้นผิง ประกาศในกรุงปักกิ่ง รัฐบาลจีนสามารถรวมชาติไต้หวันเข้ากับจีนแผ่นดินใหญ่ได้อย่างสมบูรณ์ โดยไม่ต้องมีชาติไหน ๆ เข้ามาแทรกแซง

ประธานาธิบดีไช่ อิง-เหวิน แห่งไต้หวัน กล่าววานนี้ (9 ต.ค.) เกี่ยวกับบรรยากาศของ ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและไต้หวัน ที่กำลังระอุ ยืนยันว่าไต้หวัน "ไม่เคยมีนโยบายเผชิญหน้าทางทหาร" จุดยืนของรัฐบาลไทเปที่มีต่อรัฐบาลปักกิ่งไม่เคยเปลี่ยนแปลง นั่นคือ "การอยู่ร่วมกันอย่างมีตัวตนทั้งสองฝ่าย" อย่างสันติและมีเสถียรภาพ

ประธานาธิบดีไช่ อิง-เหวิน แห่งไต้หวัน

ผู้นำไต้หวันยังย้ำด้วยว่า ความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีจีน-ไต้หวัน "ต้องคาดการณ์ได้" และคำนึงถึงการสร้างและรักษาผลประโยชน์ร่วมกัน นอกจากนี้ ยังระบุถึงการประสานและสร้างเสริมความร่วมมือระดับทวิภาคีของไต้หวัน ร่วมกับทุกประเทศที่มีบทบาทในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก เพื่อป้องกันการเกิดความขัดแย้งด้านอาวุธในทะเลจีนตะวันออก ทะเลจีนใต้ และช่องแคบไต้หวัน เนื่องจากหากสถานการณ์ยังเป็นไปอย่างตึงเครียดเช่นนี้เรื่อยไป ก็จะยิ่งส่งผลกระทบระยะยาวต่อความมั่นคงระหว่างประเทศ และห่วงโซ่เศรษฐกิจโลก

 

ด้านกระทรวงการต่างประเทศจีนยังไม่มีการออกความเห็นอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ นับตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันชาติจีน จนถึงเมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้ อากาศยานทางทหารของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (พีแอลเอ) ได้บินรุกล้ำน่านฟ้าอธิปไตยของรัฐบาลไทเป รวมจำนวนเกือบ 150 ลำ

ในวันเดียวกันนั้น ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนได้กล่าวย้ำในกรุงปักกิ่งว่า รัฐบาลจีนจะสามารถรวมชาติไต้หวันเข้ากับจีนแผ่นดินใหญ่ได้อย่างสมบูรณ์ แต่การรวมชาติต้องเป็นไปโดยสันติวิธี

 

ผู้นำจีนแสดงความเห็นดังกล่าว หลังจาก 6 ประเทศซึ่งได้แก่ อังกฤษ แคนาดา ญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ และสหรัฐอเมริกา ได้ร่วมกันซ้อมรบทางทหารใกล้ไต้หวันเมื่อต้นเดือนนี้ ปธน.สีระบุว่า จีนต้องการที่จะรวมไต้หวันกับจีนแผ่นดินใหญ่ โดยไม่มีความตั้งใจที่จะใช้กำลังทหารเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน

"การบรรลุเป้าหมายการรวมชาติเป็นภารกิจสำหรับชาวจีน" ปธน.สีกล่าวและยังเสริมว่า "ประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับไต้หวันนั้นเป็นกิจการภายในล้วน ๆ และจีนจะไม่อนุญาตให้กองกำลังต่างชาติใด ๆ เข้ามาแทรกแซง"

 

ขณะที่ผู้นำจีนให้คำมั่นจะผลักดันกระบวนการรวมชาติ “อย่างสันติ” ระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่และเกาะไต้หวันนั้น ความตึงเครียดทางทหารรอบ ๆ ช่องแคบไต้หวันก็ทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ และกลายเป็นปัจจัยหนึ่งที่สร้างความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐด้วย โดยรายงานข่าวระบุว่า นับตั้งแต่ต้นเดือนต.ค. หรือนับตั้งแต่วันชาติจีน (1 ต.ค.) เป็นต้นมานั้น เครื่องบินทหารของจีนจำนวนมากได้รุกล้ำเข้าสู่เขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ) ของไต้หวัน ซึ่งทำให้เกิดความกังวลกันว่า ปธน.สี กำลังพยายามที่จะรวมไต้หวันเข้ากับจีนแผ่นดินใหญ่โดยใช้กำลังทหาร

 

ด้านนายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านนโยบายความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว กล่าวถึงการพบหารือกับนายหยาง เจียฉือ ประธานคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์กลางของพรรคคอมมิวนิสต์ ที่เมืองซูริกของสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ โดยสหรัฐเรียกร้องหลายประเด็น รวมถึงการร่วมกันบริหารจัดการการแข่งขัน(ทางการทหาร) "ที่ตึงเครียด" ให้เป็นไปตามกติกา "ด้วยความรับผิดชอบ" เพื่อไม่ให้สถานการณ์บานปลายเป็นการเผชิญหน้าและการปะทะ