ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกาเข้าร่วม การประชุมสุดยอดของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียนซัมมิต เมื่อวันอังคาร (26 ต.ค.) ผ่านระบบการประชุมทางไกล ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีที่วอชิงตันมีส่วนร่วมในระดับสูงสุดกับกลุ่มความร่วมมือระดับภูมิภาคอย่างอาเซียน ที่ถูกมองว่าเป็นกุญแจสำคัญต่อกลยุทธ์ของสหรัฐในการคานอำนาจกับจีน
ไบเดนกล่าวในระหว่างที่เริ่มพูดต่อที่ประชุมของบรรดาผู้นำอาเซียนว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับกลุ่มอาเซียนถือว่าเป็นสิ่งจำเป็น "ผมต้องการให้ทุกท่านได้ยินจากผมโดยตรงถึงความสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับอาเซียน สามารถคาดหวังได้ว่าจะได้เห็นผมเข้าร่วมและติดต่อกับพวกท่านด้วยตัวเองเพื่อทำให้ความร่วมมือของสหรัฐลึกซึ้งยิ่งขึ้น และแสวงหาหนทางใหม่สำหรับการเจรจาในภูมิภาค”
ผู้นำสหรัฐระบุว่า เป้าหมายของเขาก็คือ ภูมิภาคที่ทุกประเทศสามารถแข่งขันและประสบความสำเร็จในสนามแข่งขันที่เท่าเทียมกัน และทุกประเทศ ไม่ว่าจะใหญ่หรือมีอำนาจเพียงใด จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายและกฎกติกา
ในโอกาสนี้ ปธน.ไบเดนได้ประกาศแผนการที่จะให้เงินสนับสนุน 102 ล้านดอลลาร์เพื่อขยายความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ กับอาเซียน โดยจะมุ่งให้เกิดประโยชน์สำหรับโครงการด้านสาธารณสุข ด้านการดูแล-รับมือสภาวะอากาศ ด้านเศรษฐกิจ และการศึกษา
นอกจากนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในวงเงินจำนวนดังกล่าวนั้น
ผู้นำสหรัฐยังแสดงความกังวลอย่างจริงจัง เกี่ยวกับความรุนแรงในเมียนมา เขาเรียกร้องให้กองทัพเมียนมา (ซึ่งผู้นำสูงสุดคือนายพลมิน อ่อง หล่าย ไม่ได้รับเชิญเข้าร่วมประชุมอาเซียนซัมมิตครั้งนี้) ปล่อยตัวผู้ที่ถูกกักขังอย่างไม่ยุติธรรม
การเข้ามีส่วนร่วมในการประชุมครั้งสำคัญของอาเซียนในครั้งนี้ ปธน.ไบเดนต้องการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับสหรัฐในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกท่ามกลางบริบทการแผ่ขยายอิทธิพลของจีนที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในฐานะที่เป็นคู่อริด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจของประเทศ
ทั้งนี้ ปธน.โจ ไบเดน จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก (East Asia Summit)ในวันพุธ (27 ต.ค.) ซึ่งครอบคลุมประเทศสมาชิกอาเซียนและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก