คณะกรรมการที่ปรึกษาฝ่ายเทคนิคซึ่ง องค์การอนามัยโลก (WHO) จัดตั้งขึ้น ออกแถลงการณ์วานนี้ (11 ม.ค.) ระบุว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่มีการใช้อยู่ในปัจจุบัน จำเป็นต้องมีการ ปรับสูตรวัคซีน เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการรับมือกับไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ๆ อย่าง โอมิครอน
"ส่วนผสมของวัคซีนโควิด-19 ในปัจจุบันจำเป็นต้องได้รับการปรับปรุงสูตรใหม่เพื่อรับประกันว่าวัคซีนดังกล่าวจะยังคงสามารถให้การป้องกันในระดับที่ WHO ให้คำแนะนำต่อการติดเชื้อไวรัสที่ถูกจัดให้เป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล เช่น โอมิครอน และสายพันธุ์อื่นๆ ในอนาคต" แถลงการณ์ระบุ
ในวันเดียวกัน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายอัลเบิร์ต เบอร์ลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไฟเซอร์ ผู้ผลิตยาและเวชภัณฑ์รายใหญ่ของสหรัฐ ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 สูตรปรับปรุงว่า บริษัทได้เริ่มการผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนโดยเฉพาะแล้ว คาดว่าจะสามารถเปิดตัวพร้อมใช้งานได้ภายในเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งที่ทำได้เร็วนั้นเพราะเป็นการพัฒนาต่อยอดจากวัคซีนโควิด-19 ตัวเดิมที่มีอยู่
ด้านโฆษกของไฟเซอร์ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ไฟเซอร์กำลังปรับปรุงสูตรวัคซีนโควิด-19 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยทำงานร่วมกับพันธมิตรคือ บิออนเทค บริษัทยาจากเยอรมนี อิงจากปฏิกิริยาของวัคซีนต่อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ หากจำเป็น ไฟเซอร์ก็สามารถปรับปรุงวัคซีนในปัจจุบันเพื่อจัดการกับสายพันธุ์ที่น่ากังวลที่อาจเกิดขึ้นได้อีกในอนาคต
ในกรณีไม่พบว่าวัคซีนเข็มที่ 3 สามารถป้องกันไวรัสสายโอมิครอนหรืออื่นๆ ในอนาคต ไฟเซอร์คาดว่าจะสามารถพัฒนาและผลิตวัคซีนที่ออกแบบสำหรับไวรัสกลายพันธุ์ชนิดนั้นๆ ได้ในเวลาประมาณ 100 วัน ขึ้นอยู่กับการอนุมัติด้านกฎระเบียบ