“ตรุษจีน” หรือปีใหม่ของคนจีนนั้น ไม่ได้มีวันที่ในปฏิทินตรงกันทุกปี และไม่ได้ตรงกับวันที่ 1 ม.ค. เหมือนวันปีใหม่สากลที่ยึดถือกันทั่วโลก ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าเทศกาลสำคัญต่าง ๆ ของประเทศจีน ยังคงยึดการนับวันตาม “ปฏิทินจันทรคติ” (Lunar Calendar) ซึ่งจะนับตามการโคจรรอบโลกของดวงจันทร์ แทนการนับวันตามปฏิทินสุริยคติ (Solar Calendar) ที่นับตามการโคจรรอบโลกของดวงอาทิตย์และใช้เป็นปฏิทินสากล
ชาวจีนจะนับจากวันที่ 1 ของเดือนแรกตามปฏิทินจันทรคติ ก่อนจะไปสิ้นสุดในวันที่ 15 ของเดือน ซึ่งส่วนใหญ่มักจะอยู่ในช่วงปลายเดือนมกราคม – กลางเดือนกุมภาพันธ์ และถือเป็นวันหยุดยาวประจำปีของคนจีน โดยรัฐบาลจีนอนุญาตให้หยุดได้นานถึง 1 สัปดาห์ เช่นเดียวกับวันชาติจีนที่ตรงกับวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี
นอกจากนี้ ชาวจีนยังเรียกเทศกาลตรุษจีนว่า “Spring Festival” หรือ เทศกาลฤดูใบไม้ผลิ ด้วย ซึ่งในภาษาจีนจะเรียกว่า “ชุนเจี๋ย” เพราะถือเป็นวันเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิของชาวจีน
ทั้งนี้ ปฏิทินจันทรคติแบบดั้งเดิมซึ่งมีต้นกำเนิดเมื่อประมาณ 4,000 ปีก่อนนั้น ถูกนำมาใช้โดยมีจุดประสงค์ด้านการเกษตรเป็นหลัก เพื่อแบ่งปีออกเป็นฤดูกาลในการทำการเกษตร
โดยการเฉลิมฉลองเทศกาลฤดูใบไม้ผลิของจีนจะเป็นช่วงที่เกษตรกรได้ใช้เวลาพักผ่อนอยู่กับครอบครัวราว 1 สัปดาห์ หลังจากทำงานหนักมาตลอดทั้งปี ก่อนจะเริ่มไถนาและหว่านเมล็ดพันธุ์พืชกันใหม่ ซึ่งถือเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าฤดูใบไม้ผลิมาถึงแล้ว
เทศกาลตรุษจีน หรือ Lunar New Year (วันปีใหม่ตามจันทรคติ) หรือจะเรียกว่า เทศกาลฤดูใบไม้ผลิ (Spring Festival) จึงเป็นเทศกาลแห่งความสุข การใช้เวลากับครอบครัว การหยุดพักผ่อน และการเดินทางท่องเที่ยว เรามาดูสีสันการต้อนรับเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึงในประเทศจีนเวลานี้ จะเห็นได้ว่า อะไร ๆที่เป็นรูป “เสือ” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์นักษัตรแห่ง “ปีขาล” ตามจันทรคติ กำลังเป็นสินค้ายอดนิยมที่ผู้คนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก (ขอบคุณภาพจาก Chinadaily.com.cn)