สหรัฐ และ อังกฤษ ประกาศ มาตรการคว่ำบาตร ทางการเงินรอบใหม่ต่อ รัสเซีย ตอบโต้การส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน โดยสหรัฐจะอายัดทรัพย์สิน แบงก์ชาติรัสเซีย และห้ามชาวอเมริกันทำธุรกรรมด้วย ขณะที่อังกฤษนอกจากการแบนธุรกรรมการเงินของธนาคารกลางรัสเซียแล้ว ยังห้ามบริษัทรัสเซียออกหลักทรัพย์ที่โอนสิทธิ์ได้ ตลอดจนห้ามออกตราสารในตลาดเงินในอังกฤษด้วย
สื่อต่างประเทศรายงานว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศอายัดทรัพย์สินของธนาคารกลางรัสเซียในสหรัฐ และห้ามชาวอเมริกันทำธุรกรรมกับธนาคารกลางรัสเซีย โดยมีผลบังคับใช้ในทันทีตั้งแต่วันจันทร์ (28 ก.พ.) มาตรการดังกล่าวยังรวมไปถึงกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของรัสเซียและกระทรวงการคลังรัสเซียด้วย
ในวันเดียวกัน สำนักข่าวบีบีซี สื่อใหญ่ของอังกฤษ ยังรายงานด้วยว่า อังกฤษได้ประกาศแบนการทำธุรกรรมใด ๆกับธนาคารกลางของรัสเซียเช่นกัน นับเป็นมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียชุดล่าสุดในการตัดสถาบันทางการเงินของรัสเซียออกจากตลาดการเงินของชาติตะวันตก
มาตรการชุดใหม่นี้ยังห้ามไม่ให้สถาบันทางการเงินของอังกฤษทำธุรกรรมกับ กระทรวงการคลังของรัสเซีย รวมถึง กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ (SWF) ของรัสเซีย และเจ้าหน้าที่ยังกล่าวว่า จะห้ามบริษัทรัสเซียออกหลักทรัพย์ที่โอนสิทธิ์ได้ ตลอดจนห้ามออกตราสารในตลาดเงินในอังกฤษด้วย
นอกจากนี้ มาตรการคว่ำบาตรของอังกฤษจะจำกัดสถาบันทางการเงินของรัสเซียเพิ่มเติม พร้อมเพิ่มความเข้มงวดในข้อจำกัดทางการค้า และกีดกันไม่ให้บางธนาคารของรัสเซียเข้าถึงเงินปอนด์สเตอร์ลิง และไม่ให้สามารถทำการหักบัญชีการชำระเงินทั่วอังกฤษได้
เจ้าหน้าที่ของอังกฤษกล่าวว่า ยังจะมีการประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติมอีกภายในสัปดาห์นี้
ด้านนายริชี ซูนัค รัฐมนตรีกระทรวงคลังอังกฤษกล่าวว่ามาตรการเหล่านี้ แสดงถึงความมุ่งมั่นของอังกฤษที่จะคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงเพื่อตอบโต้รัสเซียที่บุกเข้ารุกรานยูเครน เขายังกล่าวเสริมด้วยว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อรัสเซียในระดับสูงสุดและจะตัดรัสเซียออกจากระบบการเงินสากลต่อไป ตราบใดที่วิกฤตความขัดแย้งครั้งนี้ยังคงอยู่
แบงก์ชาติรัสเซียขึ้นดอกเบี้ยรวดเดียว 10.5% หวังสกัดเงินรูเบิลทรุด
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (28 ก.พ.) ธนาคารกลางรัสเซียได้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 10.5% จากระดับ 9.5% สู่ระดับ 20% เพื่อรับมือกับการทรุดตัวของค่าเงินรูเบิลและอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะสงครามและความไม่แน่นอนของสถานการณ์
นอกจากนี้ ธนาคารกลางรัสเซียยังได้สั่งให้บริษัทเอกชนของรัสเซีย ขายสกุลเงินต่างประเทศที่ถือครองอยู่ในอัตราส่วน 80% ของรายได้ที่ได้จากการซื้อขายสกุลเงินต่างประเทศ
ก่อนหน้านั้นเมื่อวันเสาร์ (27 ก.พ.) แบงก์ชาติรัสเซียได้ประกาศใช้มาตรการต่าง ๆ หลายด้านเพื่อสนับสนุนตลาดภายในประเทศ ในขณะที่ธนาคารกลางเองพยายามอย่างหนักที่จะรับมือกับผลกระทบที่เกิดจากการถูกชาติตะวันตกคว่ำบาตรในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
การประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากถึง 10.5% วานนี้ (28 ก.พ.) แบงก์ชาติรัสเซียมีเป้าหมายที่จะสกัดการทรุดตัวของค่าเงินรูเบิล ที่ร่วงลงไปแล้วเกือบ 30% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ แตะที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ อันเนื่องมาจากผลกระทบของมาตรการคว่ำบาตรที่นานาชาติบังคับใช้กับรัสเซีย ท่ามกลางกระแสต่อต้านกรณีรัสเซียรุกรานยูเครนที่เพิ่มสูงขึ้น