ผลสำรวจในอินโดฯ เผย ประชากรเกือบ 87% มีภูมิต้านทานโควิดแล้ว

20 มี.ค. 2565 | 19:09 น.
อัปเดตล่าสุด :21 มี.ค. 2565 | 06:09 น.

อินโดนีเซียเปิดเผยสถิติ ชี้ประชากร 86.6% มีภูมิต้านทานโรคโควิด-19 แล้ว ทั้งจากการฉีดวัคซีนและจากที่เคยติดเชื้อโควิดมาก่อน

รัฐบาลอินโดนีเซีย เปิดเผยผลสำรวจทางวิทยาเซรุ่มซึ่งจัดทำขึ้นระหว่างเดือนพ.ย.-ธ.ค. 2564 และพบประชากรอินโดนีเซีย อายุ 1 ปีขึ้นไปส่วนใหญ่ หรือ 86.6% มี แอนติบอดี หรือ ภูมิต้านทาน ของโรคโควิด-19 แล้วจากการฉีดวัคซีน หรือหลังจากติดเชื้อโควิด-19

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า อิวัน อาเรียวัน หนึ่งในคณะนักวิจัยของการสำรวจข้างต้นแถลงข่าวเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ตัวเลขดังกล่าวนับรวม 89.6% ของผู้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสแรก และ 98.7% ของผู้ฉีดวัคซีนครบโดส

 

นอกจากนั้น การสำรวจยังพบว่า 73.9% ของผู้ที่อ้างว่าไม่เคยติดเชื้อโควิด และยังไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มีแอนติบอดีของโรคโควิด-19 อยู่ด้วย ซึ่งบ่งชี้ว่า เชื้อไวรัสได้ระบาดสู่ประชาชนจำนวนมากโดยไม่มีการตรวจพบ

 

การสำรวจครั้งนี้ ถือเป็นการสำรวจระดับประเทศครั้งแรกของอินโดนีเซีย ซึ่งมีผู้ร่วมตอบแบบสอบถามจากทุกจังหวัดของประเทศ จำนวน 20,622 คน โดยอินโดนีเซียจะดำเนินการสำรวจดังกล่าวทุก ๆ 6 เดือน

 

บูดี กูนาดี ซาดิกิน รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า การสวมหน้ากากอนามัยยังคงเป็นข้อบังคับอยู่ในขณะนี้ เพราะการมีแอนติบอดี หรือมีภูมิต้านทานโรคนั้น ช่วยลดการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล การป่วยรุนแรง และการเสียชีวิตจากโควิด-19 แต่ไม่ได้ป้องกันการแพร่เชื้อของโรคดังกล่าว

การมีแอนติบอดี ช่วยลดการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและการเสียชีวิตจากโควิด-19 แต่ไม่ได้ป้องกันการแพร่เชื้อโรคดังกล่าว

กระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซียเปิดเผยว่า ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ 19 มี.ค. 65) อินโดนีเซียมียอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วประเทศอยู่ที่ 5,948,610 ราย ซึ่งสูงเป็นที่ 2 ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) รองจากเวียดนาม ที่ก้าวขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่ง (ยอดผู้ติดเชื้อสะสมมากกว่า 7.7 ล้านคน) ขณะที่ผู้ติดเชื้อรายใหม่ในรอบ 24 ชั่วโมงอยู่ที่ 9,528 ราย การติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ลุกลามครอบคลุมทั้ง 34 จังหวัดของประเทศ

 

ส่วนผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่มีจำนวน 199 ราย ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมของประเทศอินโดนีเซียมีจำนวน 153,411 ราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุดในอาเซียน